ข่าวต่างประเทศ ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเตรียมขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก

เนื่องจากการระบาดยังไม่ลดลง / โอซาก้าเริ่มประสบปัญหาเตียงในการรองรับผู้ป่วย

Home / NEWS / ญี่ปุ่นเตรียมขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก

ประเด็นน่าสนใจ

  • ญี่ปุ่นเตรียมขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินใน 4 จังหวัดออกไปอีก
  • อาจจะมีการเพิ่มจังหวัดไอจิ และ ฟุกุโอกะเพิ่มเติม
  • เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ที่ผ่านมานั้นมีเพียงการเริ่มชะลอตัวของผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น
  • โอซาก้ากำลังเผชิญปัญหาเตียงในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เริ่มวิกฤติแล้ว
  • ประชาชนราว 2 แสนคนร่วมลงชื่อคัดค้านการจัดโตเกียว โอลิมปิค 2020

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินบางจังหวัด แต่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในญี่ปุ่นยังไม่ลดลง มีเพียงแนวโน้มชะลอตัวลงจากก่อนหน้านี้เท่านั้น

ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณา เตรียมตัวขยายเวลาในการประกาศภาวะฉุกเฉินและบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวดในหลายพื้นที่ โดยได้มีการพิจารณาจะขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินใน โตเกียว, โอซากา, เฮียวโงะ และเกียวโต ไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. นี้ เนื่องจากสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้น รวมถึงยังมีแผนที่จะเพิ่มจังหวัดไอจิ และ ฟุกุโอกะ อีก 2 จังหวัดด้วย

ในขณะที่ทางโอซาก้า ผู้ว่าฯ ได้มีการร้องขอในการขยายเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ยังคงไม่ลดลง และสถานการณ์ของเตียงสำหรับรอบรับผู้ป่วยในโอซาก้ามีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ ใกล้จะเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว โดยเฉพาะเตียงผู้ป่วยหนักที่เต็มแล้ว ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มเฉลี่ยกว่า 700 รายต่อวัน

กราฟแสดงยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันของญี่ปุ่น
( Google Covid-19 Reports )

โดยในมาตรการของการประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น จะมีการให้ร้านอาหารและบาร์ ปิดภายในเวลา 20.00 น. และห้ามมีการจำหน่ายสุรา-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ, ระบบขนส่งสาธารณะถูกลดจำนวนลง เพื่อให้คนเลือกที่จะทำงานที่บ้านมากกว่าการเดินทางออกมาออฟฟิศ พร้อมกับร้องขอให้บริษัทปรับการทำงานที่บ้านเป็นหลัก

ส่วนห้างสรรพสินค้าจะมีการลดเวลาในการเปิดให้บริการ ห้ามการชุมนุม หรือการแข่งขันกีฬา ในขนาดใหญ่เกินกว่า 5 พันคน หรือไม่เกิน 50% ของความจุ

Pfizer ประกาศสนับสนุนวัคซีนสำหรับโตเกียวโอลิมปิค

ในขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในญี่ปุ่นนั้น ถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปอย่างล่าช้า กว่าประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือสหรัฐฯ ทำให้กระแสความไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตกอยู่กับรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างเลี่ยงไม่ได้

ในขณะนี้ ญี่ปุ่นมีการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 3.8 ล้านโดส หรือเฉลี่ยในการฉีดวันละประมาณ 2.2 แสนโดส ซึ่งมีผู้ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส กว่า 2.8 ล้านคน คิดเป็น 2.2% ของจำนวนประชากร ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมีอยู่ด้วยกันราว 1 ล้านคน หรือคิดเป็น 0.8%

กราฟแสดงจำนวนโดสของวัคซีนโควิด-19 ในญี่ปุ่นที่มีการฉีดตัววัน
( Google Covid-19 Reports )

ทางด้านของ OIC ได้แถลงว่า จะมีการจัดหาวัคซีนของ Pfizer ให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขันในโตเกียวโอลิมปิค ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยคาดว่า จะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับนักกีฬาและโค้ชที่จะเข้าร่วมการแข่งขั้นในครั้งนี้ ซึ่งทางไฟเซอร์เองได้ออกแถลงการสนับสนุน ในการจัดหาวัคซีนให้กับผู้ที่เข้าร่วมโตเกียว โอลิมปิค 2020 รวมถึงพาราลิมปิค ที่จะเกิดขึ้นด้วย

เกิดกระแสต่อต้านโตเกียวโอลิมปิค

จากสถานการณ์ที่ยังคงมีการระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ และทางรัฐบาลมแนวโน้มจะเดินหน้าการจัดการแข่งขันต่อไป ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากได้สร้างแคมเปญบนเว็บไซต์ Change.org เพื่อร่วมลงชื่อคัดค้านการจัดโอลิมปิคในครั้งนี้ และมีผู้ลงชื่อแล้วเกือบ 2 แสนราย

ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นก่อนหน้านี้ พบว่า ชาวญี่ปุ่นกว่า 70% มีความคิดเห็นว่า ควรเลื่อน หรือยกเลิกการจัดโอลิมปิค 2020 ในโตเกียว เนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะมีโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อแล้ว ญี่ปุ่นยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อดูแลเจ้าหน้าที่ นักกีฬา และโค้ช ในการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นด้วย