จากแนวคิดให้รถทะเบียนเลขคู่และเลขคี่วิ่งสลับวันกันเพื่อลดปัญหามลพิษในเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำ ยังไม่เหมาะสม ด้วยปัจจัยหลายอย่าง
พลตำรวจตรีเอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะทำงานแก้ไขกฎหมาย สตช. กล่าวถึงแนวทางการลดจำนวนรถยนต์ในเขตเมืองเพื่อลดปัญหามลพิษ ว่า ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ เพราะระบบขนส่งสาธารณะของประเทศไทยยังไม่ตอบโจทย์ คนส่วนใหญ่จะเข้ามาในเมืองแบบเช้าไป เย็นกลับ การจะลดปริมาณรถที่เข้ามาในเขตเมืองชั้นในต้องรอรถไฟฟ้าเสร็จทั้งหมดก่อน เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะสมบูรณ์ ถึงจะควบคุมจำนวนรถได้ และควันดำจากรถยนต์จะน้อยลง จนทำให้อากาศดีขึ้น
ส่วนแนวคิดที่ให้รถยนต์ทะเบียนเลขคู่ และ เลขคี่ วิ่งสลับวันกันเพื่อลดปริมาณควันพิษนั้น คิดว่ายังไม่เหมาะสมกับประเทศไทยซึ่งคนในเมืองหลวงมีฐานะดีเฉลี่ยจะมีรถยนต์ 2 คันขึ้นไป แต่จะกระทบคนชั้นกลางจนถึงชั้นล่าง ที่จะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ กลับกันแนวคิดนี้จะทำให้ปริมาณรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายก็จะวนกลับไปที่ต้องทำให้ระบบขนส่งสาธารณะสมบูรณ์ก่อนถึงจะตอบโจทย์ ขณะเดียวกัน นอกจากจะไม่ได้ช่วยลดปริมาณควันพิษแล้ว ยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจราจรด้วย
สำหรับรถที่มีการปล่อยควันพิษ ได้มอบนโยบายให้กองบังคับการตำรวจจราจร เพิ่มความเข้มงวดกับรถที่ปล่อยควันดำ โดยจะมีการเพิ่มโทษ และเข้มงวดกับรถเก่าไม่ให้ปล่อยมลพิษออกมา ส่วนเรื่องของการเสียภาษี ให้รถเก่าเสียภาษีแพง เป็นเรื่องที่ยังทำได้ยาก เพราะระบบการเสียภาษีของประเทศไทยปัจจุบันรถเก่าจะเสียภาษีถูก และรถใหม่เสียภาษีแพง ผลกระทบและแรงต่อต้านจากผู้ใช้รถจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรมขนส่งทางบก