ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองหลวงของเยอรมนีขายสินค้าที่เตรียมนำไปกำจัดทิ้ง เพื่อหวังลดปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
ในแต่ละปี จะมีปริมาณขยะที่เกิดจากอาหารหมดอายุเฉพาะในเยอรมนีจำนวนกว่า 18 ล้านตันจากการสำรวจขององค์กร “เวิลด์ ไวด์ ฟันด์ ฟอร์ เนเจอร์” พบว่าปริมาณขยะราวร้อยละ 40 เกิดจากบ้านเรือนทั่วไป แต่มีถึงร้อยละ 20 ที่กลายเป็นขยะก่อนจะถึงมือผู้บริโภคเสียอีก
“ราฟาเอล เฟลเมอร์” ผู้ก่อตั้งซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อ “เซอร์พลัส” เผยว่า เขามีแนวคิดที่จะช่วยลดปริมาณอาหารที่จะกลายเป็นขยะ และให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้
“เซอร์พลัส” นำผลิตภัณฑ์มาจากร้านเล็กๆ ที่ไม่สามารถขายได้ทันตามระยะเวลาในการวางสินค้า รวมถึงจากเกษตรกรท้องถิ่นและผู้ผลิตรายใหญ่ โดยในแต่ละวัน “เฟลเมอร์” และทีมงานจะไปยังตลาดกลางในกรุงเบอร์ลิน เพื่อหาผักและผลไม้ราคาถูก ซึ่งยังไม่ได้ขาย หรือถูกส่งคืนมาจากร้านอาหาร หลังจากที่ตรวจสอบรายการสินค้าที่ต้องซื้อแล้ว พวกเขาจะต่อรองให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
“เซอร์พลัส” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 และขณะนี้มี 4 สาขา โดยอ้างว่า สินค้าที่วางจำหน่ายมีราคาถูกกว่าราคาตลาดทั่วไปร้อยละ 30-80 และแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้ากว่า 1,200 คน
“เฟลเมอร์” กล่าวว่า เป้าหมายหลักของเซอร์พลัสไม่ใช่การแข่งขันกับซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอื่นๆ แต่เป็นการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องอาหารเหลือทิ้งให้แก่ลูกค้า
อาหารบางอย่างแม้ว่าจะเลยวันหมดอายุแล้ว แต่มันก็ไม่ได้แย่ และมีไม่น้อยที่ยังคงรับประทานต่อได้อีกหลายวัน หรือบางชนิดอาจจะอยู่ต่อได้อีกเป็นปี
