ณวัฒน์ อิสรไกรศีล รักษาโควิด เป็นโควิดต้องมีที่รักษา

‘ณวัฒน์’ ผุดโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” ย้ำไม่ได้อยากดัง แค่อยากช่วยเหลือ

'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' แถลงข่าว “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” โดยเป็นโครงการที่ตนตั้งมาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติด COVID-19 ที่ไม่มีสถานที่รักษาพยาบาล และยังไม่ได้รับการดูแล

Home / NEWS / ‘ณวัฒน์’ ผุดโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” ย้ำไม่ได้อยากดัง แค่อยากช่วยเหลือ

ประเด็นน่าสนใจ

  • ’ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ แถลงข่าว “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” โดยเป็นโครงการที่ตนตั้งมาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติด COVID-19 ที่ไม่มีสถานที่รักษาพยาบาล และยังไม่ได้รับการดูแล
  • โดยผู้ที่เข้ามาอยู่ในโครงการนี้ จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทางโครงการได้ประสานงานกับ สปสช.
  • ยืนยันว่า ไม่ได้อยากจะดัง เพราะส่วนตัวก็เป็นคนมีชื่อเสียงอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีธุรกิจที่ทำ จึงอยากจะแบ่งกำไรมาช่วยเหลือคนอื่นบ้าง

วันนี้ (27 เม.ย.64) นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานผู้ก่อตั้งมินแกรนด์ ไทยแลนด์ และมิสแกรนต์ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงข่าว “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” โดยเป็นโครงการที่ตนตั้งมาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติด COVID-19 ที่ไม่มีสถานที่รักษาพยาบาล และยังไม่ได้รับการดูแล

โดยนายณวัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มมาจากการที่ตนได้สัมผัสเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วย COVID-19 มาในหลาย ๆ กรณี และยิ่งได้เห็นกรณีที่อาม่าติด COVID และไม่ได้รับการรักษาจนเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน ทำให้ตนรู้สึกเสียใจ และเร่ิมมีความคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้ จะให้รอพึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียวไม่ได้แล้ว คงต้องพึ่งตัวเองด้วย ถึงแม้อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยอยากเริ่มลงมือทำก่อน จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ขึ้น โดยผู้ที่เข้ามาอยู่ในโครงการนี้ จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทางโครงการได้ประสานงานกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ คือ ต้องผ่านการตรวจ และมีผลยืนยันจากโรงพยาบาลแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 และยังไม่ได้รับการรักษาโดยยังคงอาศัยอยู่ในที่พัก หากท่านใดมีคุณสมบัติตามนี้ และต้องการความช่วยเหลือให้แอดไลน์ @missgrand ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน โดยหนึ่งในนั้นคือทีมนางงามมิสแกรนด์ไทยแลนด์

อาทิ น้ำ พัชรพร มิสแกรนต์ ไทยแลนด์ 2020 และออย จุฑามาศ รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ รวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการอบรมโดยโรงพยาบาลเกี่ยวกับวิธีสอบถามข้อมูลการคัดกรองเบื้องต้น และจำทำการติดต่อกลับเพื่อสอบถามรายละเอียด และนำข้อมูลมาจัดเก็บเพื่อส่งต่อแก่โรงพยาบาลต่างๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการมา 4 วัน ได้เก็บข้อมูลของผู้ป่วยที่ติดต่อขอความช่วยเหลือแล้วทั้งหมด 80 ราย ส่งต่อเคสไปยังโรงพยาบาล และได้รับการรักษาแล้วทั้งหมด 25 เคส ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าตอ่ไปจากนี้ในหนึ่งวันจะต้องเก็บข้อมูล และช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้ไม่ต่ำกว่า 50 คนต่อวัน และตนขอยืนยันว่า ไม่ได้อยากจะดัง เพราะส่วนตัวก็เป็นคนมีชื่อเสียงอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีธุรกิจที่ทำ จึงอยากจะแบ่งกำไรมาช่วยเหลือคนอื่นบ้าง