ประเด็นน่าสนใจ
- ตำรวจเข้าควบคุมตัวเสี่ยตั้ม หลังก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปี ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านประเวศ
- สารภาพหลอกพาไปร้านสะดวกซื้อก่อนพาไปข่มขืนอนาจาร ส่วนผู้ต้องหาอีก4 คนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว
จากกรณีที่ครอบครัว ด.ญ.วัย 14 ปี เข้าแจ้งความที่กองปราบปรามและสถานีตำรวจนครบาลประเวศ หลังจากที่ลูกสาวถูก ผู้รับเหมาและคนงานรวม 4 คน ข่มขืนกระทำชำเราที่แคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลายครั้งเป็นเวลานานกว่าครึ่งปี โดยหลังเกิดเหตุ ครอบครัวของ ด.ญ.ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แต่คดีไม่คืบหน้า ล่าสุด ตำรวจ สน.ประเวศ สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุ ได้ที่จังหวัดระยอง
พันตำรวจเอก อภิวัชร์ ไชยศรีสุข ผกก.สน.ประเวศ พร้อมพนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำ นายมนัส กวินภัทรพรต หรือ เสี่ยตั้ม อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี เพื่อการอนาจารฯ ก่อนเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นเพียงหัวหน้าคนงานโดยอ้างว่า วันที่ 29 ก.ค. ผู้ต้องหาชักชวนผู้เสียหายไปร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ก่อนออกอุบายชวนไปห้องพัก แล้วลงมือข่มขืน
ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คนนั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดคนละเวลา คนละสถานที่กัน ทางพื้นที่รับผิดชอบจะต้องดำเนินการขออายัดตัวต่อไป โดยวันที่ 17 สิงหาคม จะคุมตัวทำแผน ก่อนส่งฟ้องฝากขังศาลจังหวัดพระโขนง
อย่างไรก็ตามกรณีการถูกข่มขืนหากเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร เราเอาข้อของกฎหมายมาให้รู้กันคือ 1. หากเกิดเหตุ ห้ามชำระล้างร่างกาย เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จะหายไปด้วย 2. เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานหรือ 3. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงลักษณะของเหตุการณ์ และฝากถึงคนรอบข้างถึงสิ่งที่ห้ามทำคือ ห้ามซักถามเหมือนคาดคั้นเพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกกระทำได้รับผลกระทบทางจิตใจ