ประเด็นน่าสนใจ
* เช้าวานนี้ เรือดำน้ำ Nanggala-402 ของกองทัพอินโดนีเซียขาดการติดต่อไประหว่างการฝึกยิงตอปิโด บริเวณทะเลบาหลี
* กองทัพได้เร่งค้นหา แต่ยังไม่พบจุดที่แน่นอนของเรือลำดังกล่าว พร้อมประสานไปยังออสเตรเลีย – สิงคโปร์ เพื่อขอเรือค้นหาเพิ่มเติม
* คืนวานนี้ พบคราบน้ำมัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจากของเรือดำน้ำที่สูญหายไป ทำให้คาดว่า เรือน่าจะจมลงบริเวณร่องน้ำลึกที่ระดับ 700 ม.
ประเด็นน่าสนใจ
กองทัพอินโดฯ เร่งค้นหาเรือดำน้ำของกองทัพ หลังขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. ประมาณ 04.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเรือดำน้ำ KRI Nanggala-402ได้ขาดการติดต่อไปบริเวณทางตอนเหนือของเกาะบาหลี ห่างจากชายฝั่ง Surabaya ออกไปราว 96 กม. ในระหว่างการฝึกการยิงตอปิโด
โดยบนเรือดำน้ำลำนี้ มีทหารของกองทัพอินโดนีเซียอยู่ในเรือจำนวน 53 นายประกบอไปด้วย ผบ.หน่วยฯ ประจำเรือ KRI Nanggala-402 จำนวน 1 นาย เจ้าหน้าที่คลังแสงอีก 3 นาย และลูกเรืออีก 49 ราย
กองทัพเรือของอินโดฯ ได้ประสานมายังสิงคโปร์ และออสเตรเลีย เพื่อให้ช่วยเหลือในการค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 ที่สูญหาย เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ทางการอินโดฯ ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกบินค้นหา และพบร่องรอยของคราบน้ำมัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคราบน้ำมันของเรือดำน้ำลำดังกล่าว และจากร่องรอยนี้ ร่วมกับเส้นทางการเดินเรือ ทำให้กองทัพอินโดนีเซียคาดว่า เรือ KRI Nanggala-402 น่าจะจมลงในร่องน้ำลึกที่ประมาณ 700 เมตรในทะเลบาหลี ซึ่งเรือ KRI Nanggala-402 เองสามารถดำน้ำลึกได้ราว 500 เมตร
ซึ่งเมื่อวานนี้ หลังจากที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุม ทางกองทัพก็ได้ส่งเรือ Eddy Martadinata-313, KRI I Gusti Ngurah Rai-332 และ KRI Diponegoro-365 ออกค้นหาในบริเวณที่คาดว่าจะเป็นจุดที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 หายไป ซึ่งผลการค้นหาไม่เป็นผล
จากนั้นจึงได้มีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินค้นหาเพิ่มเติม มีการใช้ทุ่นโซนาร์ ช่วยค้นหาอีกทางหนึ่งด้วย และในภายหลังพบคราบน้ำมันลอยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้มีการคาดการณ์ว่า เรือ KRI Nanggala-402 อาจจะเกิดความเสียหายที่ถังน้ำมันดีเซล จากแรงดันของน้ำในทะเล หรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่ทาง ผบ.เรือ ทิ้งไว้ก็เป็นได้
…
เกี่ยวกับเรือดำน้ำ Nanggala-402
เรือดำน้ำลำนี้ เป็น 1 ใน 5 ลำของกองทัพอินโดฯ ที่ยังคงประจำการอยู่ในขณะนี้ โดยผลิตในเยอรมนี โดย Howaldtswerke-Deutsche Werft (HDW) เมื่อปี 1981 ก่อนส่งไปปรับปรุงที่ Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering ประเทศเกาหลีใต้เมื่อราวปี 2010 และกลับมาประจำการอีกครั้งในปี 2012 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของเรือ ระบบนำทางและโซนาร์ต่าง ๆ โดยเรือดำน้ำลำนี้น้ำหนักบรรทุก 1,395 ตันความเร็วในการแล่น 21.5 นอตและสามารถบรรทุกลูกเรือได้ 34 คน