พนักงานทำงานบริการ พนักงานห้าง

อุทาหรณ์ เตือนใจพนักงานทำงานบริการ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ

ผู้ใช้เฟซบุกชื่อ สาวฮาร์ดคอร์ ชะนีโสด นางฟ้าขี้เหงา โพสต์เรื่องราวของตัวเอง เป็นอุทาหรณ์ เตือนใจพนักงานที่ทำงานบริการ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ หลังดำเนินการมาเกือบ 2 อาทิตย์ เรื่องจบที่ขอโทษและขอยอมชดใช้เป็นเงิน เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม…

Home / NEWS / อุทาหรณ์ เตือนใจพนักงานทำงานบริการ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ

ประเด็นน่าสนใจ

  • สาวเผย เจอพนักงานห้างดัง เปลี่ยนชื่อข้อมูลลูกค้าเป็นคำด่าหยาบคาย คาดแค้นถูกตำหนิ
  • เจ้าตัวเอาเรื่องถึงที่สุด ทางพนักงานยอมลาออก พร้อมชดเชยเงิน ห้างได้ขึ้นแบล็คลิสต์พนักงานคนนี้ โดยจะไม่สามารถสมัครงานกับทางห้างได้อีกทุกสาขา

ผู้ใช้เฟซบุกชื่อ สาวฮาร์ดคอร์ ชะนีโสด นางฟ้าขี้เหงา โพสต์เรื่องราวของตัวเอง เป็นอุทาหรณ์ เตือนใจพนักงานที่ทำงานบริการ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบ หลังดำเนินการมาเกือบ 2 อาทิตย์ เรื่องจบที่ขอโทษและขอยอมชดใช้เป็นเงิน

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เจ้าของเรื่องซื้อชุดเด็กอ่อน ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่เมื่อกลับมาบ้าน พบว่าตะเข็บตรงเอวเย็บติดกับตะเข็บข้าง จึงนำกลับมาเปลี่ยนที่ห้าง ในวันถัดมา (5 สิงหาคม) แต่พนักงานหญิงแจ้งว่าเป็นแบบนี้ทุกตัว โดยไม่ตรวจสอบและเธอไปเอาตัวใหม่มาเปลี่ยนเอง

แต่ก่อนกลับ เธอเอาชุดไปให้พนักงานคนเดิมเช็ค ว่าชุดไม่ได้เย็บผิดทุกตัว แต่พนักงานทำนิ่งไม่ยอมเช็ค เธอได้พูดย้ำ พนักงานถึงยอมหยิบไปเช็ค จากนั้น เธอก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่งสอน ว่า “วันหลังอย่าพูดส่งๆ สักแต่ว่าพูดนะคะ เป็นพนักงานบริการลูกค้า” พนักงานคนดังกล่าวก็แอบชักสีหน้าและพูดขอโทษ

จากนั้น เมื่อวันที่ (13 สิงหาคม) เธอไปซื้อของที่ห้างเดิมอีกครั้ง ระหว่างชำระสินค้า แคชเชียร์ขอหมายเลขสมาชิก เธอจึงแจ้งเบอร์โทรศัพท์ไป ซึ่งเป็นเบอร์ของแม่ที่ใช้สมัครสมาชิก แต่แคชเชียร์ถามหลายรอบ เนื่องจากพบว่าชื่อสมาชิกนั้นหยาบคาย คือ “อีคว_ หน้า_หมา” เธอนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น จึงได้ไปถามหาพนักงาน ที่ทำเรื่องคืนสินค้าให้เธอเมื่อครั้งก่อน พร้อมกับแจ้งสาขา ว่าพฤติกรรมแบบนี้ ควรตักเตือนพร้อมกับไล่ออก

วันที่ 14 สิงหาคม ตัวแทนสาขาของห้างฯ ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น พร้อมจะเข้ามาขอโทษ ส่วนพนักงานไม่ได้มีการติดต่อมาเพื่อขอโทษ แต่ถึงจะติดต่อมาเพื่อขอโทษ เธอและแม่ก็ไม่รับคำขอโทษ เพราะถือเป็นการกลั่นแกล้ง กระทำโดยเจตนา อย่าอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

พนักงานคนดังกล่าวไม่ยอมรับผิด บอกว่าไม่ได้เป็นคนทำ และก็ขอลาออกเอง ทางสาขาจึงแจ้งมาตรการเบื้องต้นว่า ได้ขึ้นแบล็คลิสต์คนนี้ จะไม่สามารถสมัครงานกับทางห้างได้อีกทุกสาขา เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง

จากการสอบสวนของสำนักงานใหญ่ ตามหลักฐานที่มีชัดเจน หากแต่อดีตพนักงานยังมีท่าทีไม่ยอมรับ พร้อมถามว่า ตนเองต้องยอมรับสารภาพใช่ไหม? ทางห้างจึงบอกว่า ถ้าไม่รับสารภาพ ก็ไปสู้คดีในชั้นศาลเอา ตามหลักฐานที่มีอยู่

อดีตพนักงานจึงยอมรับสารภาพ ว่าได้กระทำความผิดจริง พร้อมกับร้องไห้ ขอโอกาส และบอกว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และเมื่อทางห้างถามว่า ทำไมตอนแรกไม่ยอมรับสารภาพ อดีตพนักงานอ้างว่าเพราะตัวเองเรียนนิติศาสตร์ อยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่อยากมีผลกับการฝึกงานและจบการศึกษา จึงไม่ยอมรับผิด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เรื่องนี้จบลงที่อดีตพนักงานคนดังกล่าวขอไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี ขอเป็นชดใช้ให้เป็นตัวเงินแทน ซึ่งตกลงที่ 30,000 บาท ให้แก่แม่ของเธอ โดยแบ่งเป็นงวดละ 3,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน

โดยมีการทำหนังสือสัญญาแสดงความยินยอมจากทางสภาทนายความ มาให้ได้เซ็นทั้ง 2 ฝ่ายและพยาน ซึ่งเธอได้แจ้งกับอดีตพนักงานว่าขอแชร์บทสรุปเรื่องนี้ แต่ไม่เปิดเผยหน้าคนทำผิด ลงพื้นที่สาธารณะ

หลังจากตกลงเจรจาแล้ว อดีตพนักงานโทรกลับมาขอต่อรองชดใช้เหลือ 25,000 บาท แบ่งชำระ 10 เดือน โดยอ้างว่ามีความจำเป็น เธอก็ยินยอม ถือให้เป็นค่าเทอมไปแล้วกัน