ขโมยอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวราง รถไฟตกราง

รวบแล้ว!! หนุ่มขโมยอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวราง ยันไม่ได้ก่อวินาศกรรม

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากกรณีขบวนรถไฟสายใต้ ขบวนรถธรรมดาที่ 255 (ธนบุรี – หลังสวน) เกิดเหตุตกรางบริเวณหลัก กม. 204/9-10 ระหว่างสถานีห้วยทรายใต้ – หัวหิน…

Home / NEWS / รวบแล้ว!! หนุ่มขโมยอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวราง ยันไม่ได้ก่อวินาศกรรม

ประเด็นน่าสนใจ

  • เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาขโมยอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวราง ได้แล้วภายหลังเกิดเหตุขบวนรถไฟสายใต้ ขบวนรถธรรมดาที่ 255 (ธนบุรี – หลังสวน) ตกราง
  • เบื้องต้นผู้ต้องหา ยืนยันเว่าไม่ได้การวางแผนที่จะก่อวินาศกรรม แต่เป็นการขโมยเพื่อนำไปแลกเงินเท่านั้น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากกรณีขบวนรถไฟสายใต้ ขบวนรถธรรมดาที่ 255 (ธนบุรี – หลังสวน) เกิดเหตุตกรางบริเวณหลัก กม. 204/9-10 ระหว่างสถานีห้วยทรายใต้ – หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนเป็นเหตุให้ขบวนรถกีดขวางการเดินรถในเส้นทางสายใต้ แต่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ส.ค.62 ที่ผ่านมา

โดยขณะนี้ได้รับรายงานจาก บช.ภ.7 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบและขยายผลถึงผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการจับกุมตัว นายสมปอง คล้ายคลึง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นันไป หรือ รับของโจร และทำให้รางรถไฟหรือรางรถรางหลุด หลวงหรือเคลื่อนจากที่” อายุความ 15 ปี

ซึ่งนายสมปอง ได้นำแผ่นเหล็กและหมุดยึดรางรถไฟมาขายให้ร้านรับซื้อของเก่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปถึงเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่คนร้ายได้นำมาขายให้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดเหล็กของกลาง หมุดยึดกับรางรถไฟจำนวนหลายรายการ และจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

อีกทั้งจากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นนั้น นายสมปอง รับว่าตนไม่ได้การวางแผนที่จะก่อวินาศกรรมตามที่มีการชี้นำหรือปรากฎในสื่อสังคมโซเซียลแต่อย่างใด โดยตนได้ก่อเหตุลักเอาแผ่นเหล็กและหมุดยึดรางรถไฟเพื่อจะนำไปจำหน่ายให้กับร้านรับซื้อของเก่าแลกกับเงิน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทื้งไป และจะทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผล ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขอบคุณ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ