ประเด็นน่าสนใจ
- อย. ชี้แจงเรื่อง การครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
- สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว หากผู้ป่วยที่แจ้งการครอบครองไว้ และยังมียาเหลืออยู่ หากยังไม่ได้เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยสามารถใช้ยาที่เหลือต่อไปได้
- ยาที่เหลือ จะสามารถใช้ได้จนกว่าจะได้รับการรักษาและได้รับยาจากสถานพยาบาล
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่เครือข่ายผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้เปิดนิรโทษกรรมครอบครองกัญชารอบใหม่หลังมีผู้ป่วยถือน้ำมันกัญชาและถูกจับกุม
รวมทั้ง ขณะนี้ได้รับการสอบถามจากประชาชนเข้ามาว่า ผู้ป่วยที่แจ้งการครอบครองยากัญชาไว้ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ถ้าหากขณะนี้ยังคงมียาดังกล่าวเหลืออยู่ จะสามารถใช้ยาดังกล่าวได้หรือไม่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา
สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัวก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ พ.ศ. 2562 ถ้าหากผู้ป่วยที่แจ้งการครอบครองไว้ ยังคงมียาเหลืออยู่และยังไม่ได้เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยสามารถใช้ยาที่เหลืออยู่นั้นต่อไปได้จนกว่าจะได้รับการรักษาและได้รับยาจากสถานพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นอกจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล 12 แห่งทั่วประเทศ และจะมีสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยอีก 7 แห่งในเดือนกันยายน 2562 นี้
ซึ่งสถานพยาบาลจะคัดกรองโรคและอาการตามเกณฑ์ข้อบ่งใช้ เมื่อผู้ป่วยเข้าเกณฑ์จะสามารถได้รับยากัญชาเพื่อการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งผู้ป่วยสามารถติดต่อขอคำปรึกษาและเข้ารับบริการได้