ข่าวต่างประเทศ ญี่ปุ่น วัคซีนโควิด-19

สื่อญี่ปุ่นวิจารณ์ ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า เหตุไม่มีวัคซีนที่ผลิตเอง-อนุมัติยาก

ผลสำรวจระบุ ปชช. ชาวญี่ปุ่น 60% ไม่พอใจมาตรการการจัดการวัคซีนของ รบ.

Home / NEWS / สื่อญี่ปุ่นวิจารณ์ ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า เหตุไม่มีวัคซีนที่ผลิตเอง-อนุมัติยาก

ประเด็นน่าสนใจ

  • สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ ระบุว่า การฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นเป็นไปอย่างล่าช้า เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
  • นอกจากนี้ การค้นคว้า วิจัยในเรื่องของวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า รวมไปถึงการอนุมัติที่มีขั้นตอนที่เข้มงวด ทำให้ในขณะนี้มีวัคซีนตัวเดียวที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานคือของ Pfizer-BioNTech
  • การพึ่งพาการนำเข้าอย่างมากเกินไป

สื่อญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (11 เม.ย.) ว่าจนถึงวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา มีชาวญี่ปุ่นได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างน้อย 1 โดสแล้วราว 1.1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 0.87 ของประชากรทั่วประเทศ ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศพัฒนาแล้วแห่งอื่นๆ เป็นอย่างมาก

สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ รายงานสถิติจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น ว่าตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. เป็นต้นมา ญี่ปุ่นยังคงอยู่ในขั้นตอนแรกของกำหนดการ โดยกลุ่มเป้าหมายคือบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนขั้นตอนถัดไปกำหนดเริ่มในวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งเป็นการฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

สำนักข่าวฯ เปรียบเทียบอัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ และสรุปว่าการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า ข้อมูลของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักรชี้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 5 ในปัจจุบัน โดยอัตราการฉีดวัคซีนของอิสราเอลสูงถึงร้อยละ 61 ส่วนสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกามีอัตราฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน อยู่ที่ร้อยละ 46 และ 32 ตามลำดับ

สำนักข่าวฯ วิเคราะห์ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้การฉีดวัคซีนในญี่ปุ่นคืบหน้าล่าช้า คือการวิจัยและพัฒนาในประเทศที่ล่าช้าซึ่งทำให้ไม่มีวัคซีนที่ผลิตในประเทศ ขั้นตอนการอนุมัติอันเข้มงวดที่ทำให้ล่าช้ากว่ายุโรปและสหรัฐฯ ราว 2 เดือน การพึ่งพาการนำเข้าอย่างมาก ซึ่งการจัดซื้อได้นั้นก็จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตสถานที่ผลิตวัคซีน

ญี่ปุ่นกำหนดให้มีการทดลองทางคลินิกของวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัครในท้องถิ่น ซึ่งข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่นนี้เองที่ทำให้กระบวนการอนุมัติล่าช้า โดยจนถึงขณะนี้มีเพียงวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) เท่านั้นที่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่น ขณะที่วัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกและรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนพฤษภาคม

โพลล์ระบุ 60% ไม่พอใจการแก้ไขของรบ.ญี่ปุ่น

ผลสำหรับทางโทรศัพย์ของสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 เม.ย. ) ระบุว่า ประชาชนกว่า 60% ไม่พอใจในการจัดการวัคซีนของประเทศ

ซึ่งจากจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขทั่วประเทศเกือบ 5 ล้านคน มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสเพียงราว 0.87% เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เช่น อังกฤษ

นอกจากนี้ยังพบว่า ประชาชนกว่า 92% มีความกังวลต่อการระบาดระลอกใหม่ และ 56.5% ไม่พอใจในมาตรการการจัดการของรัฐบาล


ที่มา – ซินหัว