ยังไม่ดับ ! บราซิลส่งทหารเกือบครึ่งแสนรับมือเหตุ ‘ไฟป่าแอมะซอน’

ประเด็นน่าสนใจ

ทางการบราซิล ระดมกำลังทหารจำนวนกว่า 44,000 นายถูกส่งไปป่าแอมะซอน ในปฏิบัติการดับไฟป่าครั้งใหญ่ โดยนับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางการบราซิลประกาศภาวะฉุกเฉินหลังเกิดเหตุไฟไหม้เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงขึ้น แม้ในวันที่ผ่านมา จะมีฝนโปรยปรายลงมา แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ฝนจะช่วยลดไฟป่าได้หรือไม่

กองทัพดำเนินการปฏิบัติการแรกเพื่อดับไฟป่าแอมะซอน ด้วยการส่งทหารไปเมือง ปอร์โต เบลโญ่ เมืองเอกของรัฐรอนโดเนีย แล้วใช้เครื่องบิน C-130 เฮอร์คิวลีส สาดน้ำลงในพื้นที่ไฟป่ามากกว่า 12,000 ลิตรเพื่อดับไฟ

ทั้งนี้เหตุไฟป่าแอแมซอนเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง ทำให้พื้นที่ป่ามีความแห้งแล้งมากที่สุดในช่วงอื่น ๆ นอกเหนือจากการปล่อยมลพิษที่เพิ่มขึ้นการตัดไม้ทำลายป่ายังส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบปริมาณน้ำฝนในภูมิภาค จนกระทั่งส่งผลกระทบ ทำให้ฤดูแล้งยาวนานขึ้น ส่งผลกระทบต่อป่าไม้ และความหลากหลายทางชีวภาพการเกษตรและสุขภาพของมนุษย์

จากเหตุไฟป่าในครั้งนี้ทำให้ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล ถูกกล่าวหาว่าละเลยไม่ยอมลงโทษคนตัดไม้ผิดกฎหมาย จากผลการวิเคราะห์ของสำนักข่าว บีบีซี บราซิล ชี้ว่า จำนวนการลงโทษผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างผิดกฎหมายในบราซิลลดลงเหลือต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี มีข้อมูลชี้ว่า ในระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ส.ค. ปีนี้รัฐบาลของนายโบลโซนาโร ลงโทษปรับผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 6,895 ครั้ง ลดลงจากปีก่อน 29.4%

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนาโร เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาก็ประกาศสนับสนุนการถางป่าเพื่อเปิดทางให้กับการทำปศุสัตว์และทำไร่ถั่วเหลือง แต่ชาวไร่มักจะใช้วิธีเผาเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้เร็วขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดไฟลุกลามอย่างคุมไม่อยู่เป็นประจำ

ส่วนทางด้านนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา แสดงความกังวลเกี่ยวกับไฟที่เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงในครั้งนี้ ที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากรระบบนิเวศน์และความหลากหลายทางชีวภาพ

อย่างไรก็ตาม จากสถิติการเกิดไฟป่าในปีนี้ระบุว่า มีไฟป่าเกิดขึ้นในป่าแอมะซอนแล้วมากกว่า 72,843 จุดในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าปีที่แล้วเกือบ 2 เท่า ขณะที่ควันไฟลอยปกคลุมพื้นที่ถึง 1.2 ตารางไมล์ทีเดียว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง