ประเด็นน่าสนใจ
- ในวันนี้ผู้ปกครอง-ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันกรุงเทพคริสเตียน ได้จัดชุมนุมหน้าโรงเรียน การรวมตัวครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจ ผอ.ศุภกิจ และผจก. นายวัชรพงษ์ ที่ถูกย้ายด่วน ผู้ชุมนุมมองคำสั่งไม่เป็นธรรม
- สาเหตุของคำสั่งส่วนคาดมาจาก นโยบายให้นักเรียนสวมชุดไปรเวทมาเรียน
- ด้านสภาคริสตจักรในประเทศไทย อ้างเพราะบริหารผิดพลาด จนนำไปสู่การสั่งปลด
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สังคมพากันจับตามอง กรณีสภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้สั่งปลด นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และประธานกรรมการบริหารโรงเรียน และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียน
นอกจากจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง ผอ. และ ผจก. ยังถูกปลดออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารสถานศึกษาอีกด้วย
คำสั่งดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่โดยสภาคริสตจักรในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากมีกลุ่มผู้ปกครอง-ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันกรุงเทพคริสเตียน มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมไม่เหมาะสม จนมีการนัดรวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจ ผอ.ศุภกิจ
คำสั่งปลด ผอ.ศุภกิจ และผจก.นายวัชรพงษ์ ได้รับความสนใจจากสังคม เพราะ ผอ.ศุภกิจ เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากประเด็นอนุญาตให้นักเรียน ใส่ชุดไปรเวทมาเรียนได้ ซึ่งประเด็นนี้ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดว่า หรือจะเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาของการถูกสั่งปลด
ถูกกดดันให้ลาออก?
30 ก.ค. 2562 สภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้มีการเชิญ ผอ.ศุภกิจ และผจก. นายวัชรพงษ์ เข้าพบเพื่อหารือปัญหาด้านการบริหารโรงเรียน จากข้อกล่าวหาอย่างไม่เป็นทางการว่า มีการบริหารงานผิดพลาด เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโรงเรียนคริสเตียนบึงกาฬ และโครงการ Space Program ไม่เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง และการใช้จ่ายเงินของโรงเรียน
ภายหลังการพูดคุยคุย มีผลสรุป ให้ผอ.ศุภกิจ และผจก. นายวัชรพงษ์ รับผิดชอบปัญหาเซ็นเอกสารยอมรับว่า มีการดำเนินการผิดขั้นตอน ขอให้รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งประเด็นนี้ถูกมองว่า ทั้งคู่ถูกกดดันให้ลาออก
ต่อมา นายวัชรพงษ์ ผจก. และ ผอ.นายศุภกิจ ได้ร้องขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบตัวตัวเอง โดยมีการเผยแพร่หนังสือลงวันที่ 2 ส.ค. เรื่อง ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ใจความหนังสือระบุว่า : สืบเนื่องจากเมื่อวันอังคารที่ 30 ก.ค. นายวิศาล พร้อมด้วย นายศักดิ์ศิษฎ์ ม่วงศักดิ์ และนายสุสันต์ ภัทรธรรมมาศ ที่ปรึกษากฎหมาย สภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย ได้มีการเชิญนายวัชรพงษ์ และนายศุภกิจ เข้าพบเพื่อพูดคุยถึงปัญหาด้านการบริหารจัดการของโรงเรียน
โดยมีผลสรุปคือ ให้นายวัชรพงษ์ และนายศุภกิจ รับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยให้เซ็นเอกสารยอมรับว่า มีการดำเนินการผิดขั้นตอน และขอให้รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม กรรมการบริหารภายในโรงเรียน ได้มีการปรึกษาหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง และมีความเห็นว่าการดำเนินการใดๆ โดยผู้อำนวยการ และผู้จัดการนั้นเป็นการกระทำในนามของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชอบธรรมและโปร่งใส กรรมการบริหารภายในฯ จึงมีมติขอให้มีการจัดตั้งกรรมการพิจารณาสอบสวนอย่างเป็นทางการ และขอยกเลิกการทำจดหมายเซ็นยินยอม เพื่อแสดงความรับผิดชอบดังกล่าว
คำสั่งปลด ผอ. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ได้รับความสนใจจากสังคม อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก ประเด็นอนุญาตให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเรียน แม้จะเป็นเรื่องภายใน และอีกหนึ่งเหตุผลที่สังคมให้ความสนใจ หรืออาจเป็นเพราะภายหลังเกิดปัญหาทางศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และผู้ปกครองบางส่วน ได้รับรู้เรื่องการสั่งปลดกลับพากันออกมาให้กำลังใจ ผอ.และผจก.โรงเรียน เรื่องที่เกิดขึ้นถูกมองว่า ทั้งคู่ถูกกดดันให้ลาออก
หลังเกิดเรื่อง ทางศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน มีการเคลื่อนไหวแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย จนท้ายที่สุด คณะกรรมการดำเนินงานสภาคริสตจักรในประเทศไทย (Super Board) ได้ข้อสรุปให้พักงานผอ. และผจก. เป็นเวลา 30 วัน และตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาความผิด
ถูกวิจารณ์คณะสอบสวนไม่สง่างาม
ทางสภาคริสตจักรยืนยันว่า ผอ.ศุภกิจ และ นายวัชรพงษ์ การบริหารงานผิดพลาด เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโรงเรียนคริสเตียนบึงกาฬ จึงได้ตั้งคณะกรรมการ 5 คน เป็นผู้สอบสวน
โดยมี มัคนายกวิศาล มหชวโรจน์ เป็นประธานในการสอบสวน ในคณะกรรมการทั้ง 5 คน มีถึง 3 คน ที่มีความสัมพันธ์กับบอร์ดบริหารของสภาคริสตจักร ได้แก่
วิศาล มหชวโรจน์ (ปธ.คณะกรรมการสอบสวน) เป็นลูกชายของ ดร.ทวีศักดิ์ มหชวโรจน์ (บอร์ดของสภาคริสตจักร)
ศักดิ์สิทธิ์ ม่วงศักดิ์ (คณะกรรมการสอบสวน) เป็นน้องของ สยาม ม่วงศักดิ์ (บอร์ดของสภาคริสตจักร)
ดร.อวิรุทธ์ โชตินันทเศรษฐ์ (คณะกรรมการสอบสวน) เป็นญาติกับ ชาญ โชตินันทเศรษฐ์ (บอร์ดของสภาคริสตจักร)
การสอบสวนโดยประธานและคณะกรรมการ ถูกมองว่า อาจมีส่วนได้เสียในประเด็นที่ ผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงเรียนถูกกล่าวหา และอาจถูกมองว่าไม่เป็นกลาง จึงเกิดการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่ พร้อมทั้งเรียกร้อง ให้มีการเพิ่มเติมรายละเอียดของข้อกล่าวหาต่างๆ แต่ทางสภาคริสตจักรในประเทศไทย ก็ไม่ได้แสดงออกใดๆ
ใน วันที่ 17 ส.ค.2562 ทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย มีการจัดงานครบรอบ 167 ปี ทางสมาคมศิษย์เก่า ก็ได้แถลงข่าวให้กําลังใจผู้อํานวยการโรงเรียน และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนกรรมการบางคน เพราะเกรงว่าจะไม่เป็นกลาง
พร้อมมีหนังสือถึงผู้รับใบอนุญาต ให้เปิดเผยข้อกล่าวหาและผลการสอบสวน ตลอดจนปรับเปลี่ยนที่มาของกรรมการสอบสวน และให้ สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน มามีส่วนร่วมในกระบวนการสอบสวน
ใน วันที่ 18 ส.ค. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมาพูดถึงประเด็นการขัดแย้งดังกล่าวว่า ตนจะเรียนเชิญ ผอ. ผจก.และคณะกรรมการบริหารภายในโรงเรียน รวมถึงคริสจักรในประเทศไทยเข้าพูดคุย
แต่แล้ว ในวันที่ 22 ส.ค. สภาคริสตจักรในประเทศไทย ก็มีคำสั่งปลด ผอ.ศุภกิจ และ ผจก.วัชรพงษ์ออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารโรงเรียน และตำแหน่งผู้อำนวยการผู้จัดการโรงเรียน รวมทั้งให้ย้ายออกจากพื้นที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน พร้อมแต่งตั้ง ดร.บรรจง ชมภูวงศ์ เป็นรักษาการผอ. และผจก. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน ยังให้กำลังใจผอ.
ในวันที่ 27 ส.ค. 2562 ได้มีการนัดรวมตัวกันของผู้ปกครอง- ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน เดินทางไปโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เพื่อให้กำลังใจและยังคงเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบที่เป็นธรรม ปมคำสั่งย้ายนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ไปปฏิบัติงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้
ทางผู้ชุมนุมนัดกันแต่งชุดดำ พร้อมติดแฮชแท็ก #SaveBCC นอกจากจะชุมนุมให้กำลังใจแล้ว องค์กร Save BCC ยังได้ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอ ข้อเรียกร้อง เพื่อให้ผู้มีอํานาจ หรือหน่วยงานที่มีอํานาจ เข้ามาร่วมดูแล แก้ไขปัญหาและสถานการณ์ต่างๆ 4 ข้อดังนี้
1.องค์กร SavGBcc ต้องการเห็นการดําเนินการตามพันธกิจของโรงเรียน ซึ่งตามโครงสร้าง คณะกรรมการบริหารจะต้องมีความเป็นอิสระในการบริหารและถ่วงดุลโดย ผู้ปกครอง ครู ซึ่งเห็นว่าความถูกต้องคือโรงเรียนไม่ควรถูกแทรกแซงจากองค์กรภายนอก และวัตถุประสงค์ หน้าที่ของโรงเรียน ครูอาจารย์ คือ อบรมสั่งสอน เป็นแบบอย่าง เพื่อผลิตคนดีออกสู่สังคม โดยยึดประโยชน์ของนักเรียนเป็นที่ตั้ง มิใช่การหาผลประโยชน์จากโรงเรียน
2.กรณีสอบสวน ขอให้ดําเนินไปโดยหลักธรรมาภิบาลและกระบวนการสอบสวนที่เป็นธรรม มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่พอเพียง และดําเนินการโดยบุคคลที่เป็นกลาง เปิดโอกาสให้ กลุ่ม ผู้มีส่วนได้เสียเข้ามามีส่วนร่วมสังเกตการณ์
3.เรียกร้องขอให้หน่วยงานของรัฐที่มีอํานาจกํากับดูแลมาเป็นองค์กรกลาง มีส่วนร่วมในการหา ข้อยุติของกรณีปัญหา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบตามหลักธรรมาภิบาลและ ประโยชน์ของความเป็นธรรม
4.ขอให้มีการทบทวน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนและผู้เข้ามาดํารงตําแหน่งรักษาการ โดยแต่งตั้งผู้ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของคณะครูและนักเรียน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ในการบริหารงาน และดําเนินงานของโรงเรียนต่อไป
เนื่องจากมีการแจ้งล่วงหน้าว่า จะมีการนัดรวมตัวกันดังกล่าว ทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มีการประกาศหยุดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 วัน ล่าสุด ทางด้านสภาคริสตจักรในประเทศไทย องค์กรแม่ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ทำความรู้จักโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย Bangkok Christian College (BCC) เป็นโรงเรียนชายล้วน ได้รับการสถาปนาขึ้นโดยคณะมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียน เมื่อ ค.ศ. 1852 ปัจจุบันโรงเรียนมีอายุ 167 ปี เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เป็นโรงเรียนโปรแตสแตนท์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ และเป็นโรงเรียนเพียงแห่งเดียวในปัจจุบันที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย สังกัดสำนักงานพันธกิจการศึกษามูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย โรงเรียนมีศิษย์เก่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน ทั้งองคมนตรี 4 คน นายกรัฐมนตรีไทย 2 คน รัฐมนตรีหลายกระทรวง นักร้อง นักแสดง ผู้จัดรายการหลายคน และอำนวย เสี่ยงไทร์ แพทย์ชื่อดัง
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เป็นโรงเรียนในเครือจตุรมิตร ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, โรงเรียนเทพศิรินทร์, โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
ทำความรู้จักสภาคริสตจักรในประเทศไทย
สภาคริสตจักรในประเทศไทย คือ องค์กรทางศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแต้นท์ ที่รวมตัวกันเพื่อทำพันธกิจของพระเจ้าในประเทศไทย อันประกอบด้วย พันธกิจด้านการประกาศเผยแพร่พระกิตติคุณ พันธกิจด้านการศึกษา พันธกิจด้านการรักษาพยาบาลและพันธกิจอื่นๆ
โดยมีหลักข้อเชื่อ ข้อปฏิบัติ และธรรมนูญเดียวกัน อยู่ภายใต้การปกครองเดียวกัน ด้วยวิธีการเลี้ยงตนเอง ปกครองตนเอง และประกาศพระกิตติคุณด้วยตนเอง
สภาคริสตจักรในประเทศไทยมีการแบ่งการปกครองออกเป็นคริสตจักรภาค
คริสตจักรท้องถิ่น หมวดและศาลาธรรม อีกทั้งมีหน่วยงานและสถาบันการศึกษา สถาบันการแพทย์ร่วมทำพันธกิจของพระเจ้าอย่างครบวงจร
สภาคริสตจักรในประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับคริสตจักรสากล อาทิ เป็นสมาชิกของสภาคริสตจักรสากล (World Council of Chruch: WCC) สภาคริสตจักรแห่งเอเชีย (Christian Conference of Asia: CCA) และสหคริสตจักรปฏิรูปสากล (World Communion of Reform Churches: WCRC)