ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

ร้องนายกฯ ยกเลิกคำสั่งปลด “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ

กลุ่มมอเตอร์ไซค์หลายสิบคัน ซึ่งเป็นเพื่อนของ แอ๊ด คาราบาว ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกคำสั่งให้ 'ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร' ออกจากราชการ

Home / NEWS / ร้องนายกฯ ยกเลิกคำสั่งปลด “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ

ประเด็นน่าสนใจ

  • กลุ่มมอเตอร์ไซค์หลายสิบคัน ซึ่งเป็นเพื่อนของ แอ๊ด คาราบาว ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกคำสั่งให้ ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ ออกจากราชการ
  • ชี้ ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ ทุ่มเทเสียสละทำหน้าที่ในการพิทักษ์ป่า และมีผลงานโดดเด่นมีการจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก
  • ระบุหากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติยังคงยืนยันลงโทษ ‘ชัยวัฒน์’ อาจจะกลายเป็นผู้กระทำผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเสียเองก็ได้

วันนี้ ( 7 เม.ย 64) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มมอเตอร์ไซค์หลายสิบคัน ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว เป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ยื่นจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยกเลิกมติคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน ออกจากราชการ

ทั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา กรณีถูกกล่าวหาว่า นายชัยวัฒน์ เข้าไปรื้อถอน เผาทำลาย บ้านพัก และสิ่งปลูกสร้างของปู่คออี้ และชาวกะเหรี่ยงอีกหลายราย เมื่อปี 2554 จากยุทธการตะนาวศรี

ด้านนางวัฒนา เนื่องพลี วชิโรดม เลขาธิการเครือข่ายการจัดการวิกฤตป่าและน้ำ ตัวแทนยื่นหนังสือได้กล่าวว่า นายชัยวัฒน์เป็นผู้พิทักษ์ป่าที่ทุ่มเทเสียสละทำหน้าที่ในการพิทักษ์ป่า และมีผลงานโดดเด่นมีการจับกุมดำเนินคดีจำนวนมากกับผู้บุกรุกป่าโดยไม่เกรงกลัวผู้มีอำนาจและอิทธิพลต่างๆ ถือว่าเป็นข้าราชการป่าไม้ดีเด่นที่หาได้ยากคนหนึ่ง

จากที่ได้ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้นเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ท. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการชี้มูลความผิดเฉพาะในข้อหา 157 ตามประมวลกฎหมายอาญาและตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน 85/1 (1) เพราะกฎหมาย ป.ป.ท.ให้อำนาจในการชี้มูลเรื่องทุจริตเท่านั้น แต่นายชัยวัฒน์ไม่ได้ทุจริตจึงเป็นการนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่จะชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ มองว่าเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย

ทั้งนี้หนังสือรายงานชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ ก็กระทำโดยอคติมีการอ้างคำสั่งศาลปกครองสูงสุดว่านายชัยวัฒน์ทำเกินกว่าเหตุ แต่ข้อเท็จจริงในศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาเรียบร้อยแล้วว่านายชัยวัฒน์ได้ทำการจับกุมผู้ที่บุกรุกอุทยานตามกฏหมายอย่างถูกต้องสมควรแก่เหตุเป็นการกระทำชอบด้วยกฎหมายและไม่มีอะไรเสียหาย

หากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติยังคงยืนยันลงโทษนายชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นข้าราชการที่พิทักษ์ป่าอย่างเข้มแข็งให้ออกจากราชการ เพียงเพราะอ้างว่าต้องทำตามมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของคณะกรรมการป.ป.ท. กระทรวงฯ ก็อาจจะกลายเป็นผู้กระทำผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเสียเองก็ได้


ภาพ : วิชาญ โพธิ