ประเด็นน่าสนใจ
- อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต วงเงินกว่า 9 พันล้านบาท
- ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ ยกฟ้องนายทักษิณ และให้ถอนหมายจับเฉพาะคดีนี้ ชี้พยานเบิกความกล่าวอ้างคิดไปเอง ว่า บิ๊กบอส คือ นายทักษิณ หรือ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต วงเงินกว่า 9 พันล้านบาท ปัจจุบันศาลฎีกาฯ ออกหมายจับนายทักษิณแล้ว
คดีนี้นายทักษิณ ในฐานะจำเลยที่ 1 เคยถูกจำหน่ายออกจากสารบบ ความชั่วคราว และศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกจำเลยที่เกี่ยวข้อง เช่น อดีตกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย ผู้บริหารระดับสูงในธนาคารกรุงไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อในธนาคารกรุงไทย รวมถึงกลุ่มเอกชนเครือกฤษดามหานคร พร้อมกับให้ชดใช้ค่าเสียหายประมาณหมื่นล้านบาทไปแล้วตั้งแต่ปี 2558
แต่เมื่อภายหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 (ฉบับใหม่) มีผลบังคับใช้ ทำให้ อสส. ยื่นเรื่องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติให้นำคดีดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดยไต่สวนแบบลับหลัง (จำเลยไม่ต้องมาศาล)
ล่าสุด ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ ยกฟ้องนายทักษิณ และให้ถอนหมายจับเฉพาะคดีนี้ ชี้พยานเบิกความกล่าวอ้างคิดไปเอง ว่า บิ๊กบอส คือ นายทักษิณ หรือ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร