ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562 เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนชรา เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

เปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562

วันที่ 1 ก.ค. 2562 แฟนเพจ พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562 สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเบี้ยยังชีพคนชรา คือ เงินช่วยเหลือที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้กับผู้สูงอายุ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และในทุกๆ…

Home / NEWS / เปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562

ประเด็นน่าสนใจ

  • ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะต้องมีสัญชาติไทย อายุ 59 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
  • สำหรับปี 2562 นี้ การลงทะเบียนช่วงต้นปี 2562 ผู้สูงอายุต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2503
  • กทม. ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ที่ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ส่วนผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดยื่นเรื่องไปยัง สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล

วันที่ 1 ก.ค. 2562 แฟนเพจ พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562 สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเบี้ยยังชีพคนชรา คือ เงินช่วยเหลือที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้กับผู้สูงอายุ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และในทุกๆ ปี จะมีการเปิดให้ผู้สูงอายุรายใหม่ๆ ที่มีสิทธิ เข้ามาลงทะเบียนเพื่อรับเงินในส่วนนี้

โดยการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนใหม่ทุกปี ลงเพียงครั้งเดียวก็ได้รับสิทธิไปตลอด เว้นแต่กรณีที่ผู้สูงอายุย้ายที่อยู่ หรืออาจมีปัญหารายชื่อตกหล่น ถึงค่อยไปทำการยืนยันสิทธิ แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้สมบูรณ์

รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการลงทะเบียนผู้สูงอายุ 2562 มีดังนี้

1. ใครมีสิทธิ์ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ

สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

  • สัญชาติไทย
  • อายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยการลงทะเบียนช่วงต้นปี 2562 ต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2503 (ผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้นๆ)
  • ต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์ประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
2. ช่วงเวลาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2562
  • ช่วงเดือนมกราคม ถึง กันยายน 2562 (รับเงินงบประมาณปี 2563) สำหรับผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2503
  • ช่วงเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 2562 (รับเงินงบประมาณปี 2564) สำหรับผู้ที่เกิดวันที่ 2 กันยายน 2503 – 1 ตุลาคม 2503
3. ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2562 ได้ที่ไหน
  • กรุงเทพฯ สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นยื่นแทน ได้ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
  • ต่างจังหวัดยื่นได้ที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
4. หลักฐานในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย
  • ทะเบียนบ้านตัวจริง
  • สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารตัวจริงพร้อมสำเนา (สำหรับผู้ขอรับเงินผ่านธนาคาร)

***แต่หากผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้

-หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
-สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ

5. ผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้รับเงินเท่าไร

การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปัจจุบัน จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตลอดชีวิต โดยเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามช่วงอายุ ดังนี้

  • อายุ 60 -69 ปี จะได้รับ 600 บาท/เดือน
    อายุ 70 -79 ปี จะได้รับ 700 บาท/เดือน
    อายุ 80 -89 ปี จะได้รับ 800 บาท/เดือน
    อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท/เดือน
6. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รับเงินได้ทางไหนบ้าง

ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์สามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินเบี้ยยังชีพผ่านทางช่องทางไหนได้ตามนี้ 

  • รับเป็นเงินสดด้วยตนเอง
  • ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจรับแทน
  • โอนเข้าบัญชีธนาคารในนามของผู้สูงอายุ
  • โอนเข้าบัญชีธนาคารในนามของผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุท่านใดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความประสงค์จะรับสวัสดิการเบี้ยยังชีพ ก็อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนกันให้เรียบร้อย

ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์