ญีปุ่น โควิด-19

ญี่ปุ่น เผชิญโควิด19 ระบาดระลอกที่ 4

พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 2 พันรายต่อวันต่อเนื่อง

Home / NEWS / ญี่ปุ่น เผชิญโควิด19 ระบาดระลอกที่ 4

ประเด็นน่าสนใจ

  • ญี่ปุ่น เผชิญการระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่ นับเป็นระลอกที่ 4 แล้ว
  • โดยพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 2 พันรายต่อวันต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
  • การระบาดที่เกิดขึ้นในรอบใหม่ มาเร็ว ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการป้องการการระบาดในระลอกนี้ จำเป็นต้องใช้มาตรการอื่น ๆ ร่วมด้วย
  • ยอดรวมผู้ป่วยโควิด-19 ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.8 แสนราย เสียชีวิตสะสม 9 พันกว่าราย

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการระบาดในระลอกใหม่อีกครั้ง โดยจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 โดยยอดล่าสุด ( 4 เม.ย.) พบผู้ป่วยเพิ่ม 2,471 ราย รวมผู้ป่วยสะสมในญี่ปุ่นขณะนี้อยู่ที่ 486,487 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 9,249 ราย

ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่าเป็นการเผชิญกับการระบาดในระลอกที่ 4 ของประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งตั้งแต่ช่วงวันที่ 30 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันเกิน 2,000 ราย มาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่ของ โอซาก้า, เฮียวโงะ และมิยากิ ที่มีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

สถิติผู้ป่วยโควิด19 รายใหม่ต่อวัน ของญี่ปุ่น (Google Covid-19 Reports)

สธ. ญี่ปุ่น ตัดสินใจให้ผู้ป่วยอาการเบากักตัวเอง – ไม่ต้องนอน รพ.

จากการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ประกาศแนวทางให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ให้กักตัวอยู่ในที่พักที่กำหนดไว้ ทั้งนื้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น และรักษาจำนวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้มีที่ว่างพอสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์-พยาบาล

โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ได้อนุญาตให้แต่ละท้องถิ่นสามารถประเมิน-จัดหาสถานที่สำหรับกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อย เพื่อรองรับผู้ป่วย เนื่องจากในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น เช่นในเขตเซนได จำนวนเตียงที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ถูกใช้ไปแล้ว 94%

ระลอก 4 มาเร็ว การฝากความหวังไว้ที่วัคซีนอย่างเดียวไม่พอ

ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่น ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 1 ล้านโดส เพื่อหวังว่าจะช่วยควบคุม-ลดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้ หลายฝ่ายประเมินว่า ประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่การระบาดในระลอกที่ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการเร่งฉีดวัคซีนดูเหมือนจะไม่ทันต่อการป้องกันการระบาดในระลอกใหม่นี้ ซึ่งหากฝากความหวังไว้กับการฉีดวัคซีน ในการป้องกันโควิด-19 ในระลอกที่ 4 นี้ เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

ผลการศึกษาการในโตเกียว หากสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนได้มากกว่า 7 หมื่นโดสต่อวัน ในกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็ยังประเมินว่า โตเกียวจะมีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันอยู่ที่ราว 1,600 ราย น้อยกว่าในระลอกที่ 3 แต่ก็ยังใกล้เคียงกับการระบาดในระลอกที่ 2 ซึ่งจากการประเมินคาดว่า วัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนนั้น จะเห็นผลได้ดีในช่วงเดือน ก.ค. 64 ที่คาดว่า อาจจะเป็นระลอกที่ 5 ของการระบาด

นอกจากนี้ การที่จะให้วัคซีนมีประสิทธิภาพในการช่วยยับยั้งการระบาดของโควิด-19 จำเป็นที่จะต้องเพิ่มจำนวนการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี เนื่องจากในกลุ่มผู้ที่อายุต่ำกว่า 60ปีนั้น มีอัตราการติดเชื้อที่มากกว่าถึง 5 เท่า หากต้องการตัดวงจรของการระบาด จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ให้ได้อย่างน้อย 10% ของประชากรในกลุ่มนี้

ดังนั้น ในแนวทางที่จำเป็น นอกเหนือจากจะฉีดวัคซีนยังคงเป็นการสวมหน้ากาก การลดเวลาทำงาน จำกัดการเดินทาง และการรวมตัวของประชาชนจึงยังคงจำเป็น

กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ขอช่วยเหลือฉุกเฉิน

จากการระบาดรอบใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ญี่ปุ่นมีมาตรการในการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดเพื่อการควบคุมการระบาดในพื้นที่ที่มีแนวโน้มในการระบาดรุนแรงขึ้น โดยในพื้นที่จังหวัดโอซาก้า, เฮียวโงะ และมิยางิ มีคำสั่งให้ร้านอาหารปิดให้บริการภายในเวลา 20.00น. หากฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงถึง 2 แสนเยน ส่วนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากเช่น คอนเสิร์ต ถูกจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 5 พันคน และขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในบ้าน ไม่ออกภายนอกเคหสถานในช่วงกลางคืน เพื่อป้องกันการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่

โดยคำสั่งนี้ จะมีผลเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 5 พ.ค. 2564 ทำให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบเดือนร้อนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารจึงได้รวมตัวกันเสนอขอเรียกร้องต่อจังหวัด เพื่อให้หาแนวทางช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว