ประเด็นน่าสนใจ
- คนโพสต์ไม่พอใจ ตำรวจตั้งด่านจับ-ปรับรถจักรยานยนต์ ในอุทยานฯ เขาชะเมา
- ตำรวจเผยเพื่อป้องกันการแข่งรถสร้างความเดือดร้อน เพราะมีการนัดรวมตัวกันกว่า 300 คัน
- ชาวเน็ตชี้ถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว
วันนี้ (1 ก.ค. 2562) โลกออนไลน์ได้เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อมีภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งได้มีการไปตั้งด่านตรวจรถนักท่องเที่ยว ก่อนจับ-ปรับกันในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาชะเมา อ.เขาชะเมา จ.ระยอง
โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเพจ สายหมอบBangsaen ที่เผยถึงสาเหตุของการนำเรื่องดังกล่าวออกมาเผยแพร่ว่า ก็เพื่อต้องการคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมายแต่กลับมาจ้องจับผิดเช่นนี้
ขณะที่ผู้โพสต์ระบุว่า 🔰 #แชร์ไปครับ
🔰 ผิดก็ถูกจับถูกต้องแล้วครับ
แต่ข้างในสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาชะเมาสวยๆแบบนี้ #คุณสมควรเข้าไปตั้งด่านจับกันถึงข้างในสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ไหมหละครับ จอดรถน้องๆเขาก็จอดกันให้เป็นระเบียบตามที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานบอกทุกอย่างแล้วทำไมคุณถึงไม่ออกไปตั่งด่านจับกันข้างนอกของเขตอุทยานหละครับ เพื่อจะได้โชว์ความสามารถในการจับครั้งนี้ให้ดูดีกว่านี้หละครับ
พวกผมพี่น้อง #สายหมอบ จะมาเที่ยว จะมาเล่นน้ำตก จะมาถ่ายรูปโชว์สถานที่ท่องเที่ยวกับความสวยงามเอาไปอวดเอาไปโชว์กันว่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาชะเมาของประเทศไทยเราสวย ว่าน่าพากันมาเที่ยว มาถ่ายรูป มาเช็คอินกัน แต่นี้พวกผมกลับต้องมานั่งถ่ายภาพการจับรถในสถานที่ท่องเที่ยวแทน😓
แล้วแบบนี้ใครจะอยากชวนกันไปท่องเที่ยวอีกหละครับ พวกผมไปเที่ยวกันมา6ปีแล้วครับ พวกผมส่วนใหญ่ก็มีแต่มอเตอร์ไซค์ที่จะขี่ไปท่องเที่ยวกันได้ไม่มีรถยนต์เหมือนใครเขา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานบุรีรัมย์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
ตำรวจ แจง เพราะป้องกันการสร้างความเดือดร้อน ปชช. ไม่ผิดไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์
ก่อนที่เวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุของการเข้าตรวจจับในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะต้องการป้องกันไม่ให้คนกลุ่มดังกล่าวมีการมัวสุม หรือแข่งขันความเร็วกันบนท้องถนนจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน
เพราะสืบทราบมาว่าการเข้าเที่ยวอุทยานฯ เขาชะเมาดังกล่าว มีการนัดรวมตัวกันและนำรถเข้าอุทยานฯ กว่า 300 คัน ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ารถผิดกฎหมายก็ทำการจับปรับ แต่ถ้ารถไม่ได้ดัดแปลง หรือมีเอกสารครบ ก็ไม่ได้ถูกจับปรับดำเนินคดี