ประเด็นน่าสนใจ
- รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดโครงการอบรมหลักสูตร PIP อย่างเป็นทางการ สร้างผู้นำรุ่นใหม่ ที่รับผิดชอบต่อสังคม ดึงวิทยากรมากประสบการณ์ร่วมให้ความรู้ พร้อมยืนยัน ไม่ได้หาเด็กสังกัดพรรค
- วัตถุประสงค์โครงการนี้ จากข้อมูลระบุว่า จะเน้นการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ปลูกฝังจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เรียนรู้การเมืองการปกครองในหลากหลาย
- ทั้งนี้ ผู้เข้าอบรมจะได้พบและเรียนรู้จากวิทยากรที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นักการตลาด นักธุรกิจ ข้อมูลระบุว่า ผู้เข้าอบรมจะได้เนื้อหาหลากหลายจากการเข้าอบรม ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว โดยโครงการนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย
วันนี้ 3 ก.ค. 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะที่ปรึกษา โครงการ Palungpracharat Internship Program หรือ PIP พร้อมด้วยทีมคนรุ่นใหม่พรรคพลังประชารัฐ
นำโดย นายไกรเสริม โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการ PIP ร่วมเปิดโครงการอบรมหลักสูตร Palungpracharat Internship Program หรือ PIP อย่างเป็นทางการ โดยมีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ลงทะเบียนเข้าอบรม จำนวน 36 คนร่วมเปิดหลักสูตรครั้งนี้ด้วย
นายไกรเสริม กล่าวว่า โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคเกิดใหม่ แต่ได้กระแสยอมรับจากประชาชน จากหลากหลายองค์ประกอบทั้งผู้นำ คณะกรรมการบริหารพรรคและ นโยบาย รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมทำงานและกำหนดนโยบาย
จึงต้องการต่อยอดจุดนี้ไปยังคนรุ่นใหม่ต่อๆไป เพราะเห็นความสำคัญและความสามารถของคนกลุ่มนี้ ที่ต้องติดดาบความรู้นอกห้องเรียน เนื่องจากหลักสูตรนี้เราไม่ได้สอนแค่การเมืองแต่มีวิทยากรหลากหลายอาชีพมาร่วมแชร์ประสบการณ์ มีการเรียนรู้นอกสถานที่
ทั้งนี้คนรุ่นใหม่คือพลังของประเทศในอนาคต จึงหวังว่าหลักสูตรนี้จะสามารถสร้างบุคคลากรที่ดีและมีคุณภาพ สู่สังคมไทยในอนาคต
ด้านนายณัฏฐพล กล่าวว่า โครงการนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค พลังประชารัฐ แต่เกี่ยวกับประเทศไทย เพราะเป็นโครงการที่มุ่งหวังให้คนซึ่งมีความรู้ความสามารถมาร่วมผลักดันให้การขับเคลืีอนประเทศไปได้ พร้อมนำความคิด การเสนอแนะ ของน้องๆในยุคสมัยใหม่มาผลักดันให้ประเทศต่อสู้กับการขับเคลื่อนโลกในยุคปัจจุบัน อยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์ และนำความรู้ความสามารถ ความคิดใหม่ที่แตกต่างมาผสมผสานกัน
เพราะโครงการนี้ไม่ใช่การเมืองเพียงอย่างเดียว แต่คลอบคลุมทุกด้าน นอกจากนี้น้องๆที่เข้าอบรมจะได้มีโอกาสเห็นตัวแทนพี่น้องประชาชนขับเคลื่อนนโยบายจริง เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำรัฐบาล จึงมีพี่ๆ หลายคนได้เข้าไปทำงานในกระทรวงต่างๆ ทำให้ผู้เข้าอบรมมีโอกาสดีที่จะได้สัมผัสการทำงานจริง และมีส่วนร่วมในการแชร์ความคิด
อย่างไรก็ตามหวังว่า หลักสูตรนี้จะเปิดโอกาสในการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าอบรมกับรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้อนาคตประเทศไทยอยู่ที่คนรุ่นใหม่ หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมีคนขัดเส้นไว้ให้เรา อาจถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง แต่จากนี้เราจะเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา และประเทศของเรา เมื่อมาเข้าอบรมแล้วหลายคนอาจจะนึกว่าต้องยึดโยงกับการเมืองซึ่งไม่ใช่ เพราะเราเปิดกว้างและรู้ดีว่า ความสนใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ดังนั้นอย่าปิดกั้น ต้องกล้าแสดงออก ที่สำคัญเมื่ออบรมเสร็จไม่ได้มีข้อผูกมัดว่า น้องๆที่เข้าอบรมจะต้องอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะเราอยู่ด้วยการแลกเปลี่ยนความคิด และหลังจบหลักสูตรไปแต่ละคนจะเลือกพรรคการเมืองไหน ก็เชื่อว่า จะเป็นพรรคที่นำพาประเทศไปได้
อย่างไรก็ตามมีการ ตั้งเป้าในการเปิดหลักสูตร PIP ปีละ 2 รุ่น ทั้งในและต่างประเทศจึงหวังว่า รุ่นที่ 1 จะเป็นกำลังหลักเพื่อให้สามารถเปิดรุ่นที่ 2 ได้ จึงขอเป็นกำลังใจและขอให้ทุกคนเต็มที่กับการเรียนรู้
สำหรับหลักสูตร PIP เน้นพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ปลูกฝังจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เรียนรู้การเมืองการปกครองในหลากหลายมิติ ทั้งการบริหารจัดการ การพัฒนาตนเองและองค์กร มิติเพื่อสังคมและการเมือง เพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยผู้เข้าอบรมจะได้พบและเรียนรู้จากวิทยากรผู้มากประสบการณ์ในด้านต่างๆ
เช่น พระจิตร์ ตัณฑเสถียร อดีตนักการตลาดที่จะช่วยให้ได้เห็นคุณค่าที่แท้จริงจากสิ่งต่างๆรอบตัว ,น.ส.อภินรา ศรีกาญจนา ผู้บริหาร U Drink I Drive ซึ่งประสบความสำเร็จด้านธุรกิจและการตอบแทนสังคม,นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ ที่มาพร้อมแนวคิดสำคัญ ในการทำธุรกิจที่ว่า “เราโตคนเดียวไม่ได้”,
นายอมฤทธิ เจริญพันธ์ ผู้ก่อตั้ง Co Working Space ชื่อดังของเมืองไทย ที่จะมาปลุกพลังและสร้างแรงบันดาลใจในชีวิต และนายอุกฤษ อุณหเลขกะ ผู้ร่วมก่อตั้ง Ricult แพลตฟอร์มเพื่อเกษตรกรไทย ที่จะมาเผยแนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคม
นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังจะได้คิดจริง ทำจริง ตลอดจนสัมผัสพื้นที่จริงนอกห้องเรียน เนื้อหาเข้มข้นหลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะการเมืองเพียงอย่างเดียว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น