อดีตส.ว. โพสต์เตือนว่าที่ รมว.พลังงานคนใหม่เตรียมรับศึกหนัก เร่งแก้ไขปล่อยให้การผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ลดต่ำกว่า 51% ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีคําวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องร้องเรียนเลขแดงที่ 1030/2562 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2562 สาระสําคัญเสนอแนะต่อกระทรวงพลังงานให้พิจารณาทบทวน ยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน (พ.ศ. 2559 – 2563 ) และแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2558 – 2579 (PDP 2015 )
ซึ่งปรับแผนใหม่เป็นแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ( PDP 2018 ) เพื่อกําหนดแนวทางให้รัฐมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 84 (11) และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 56 วรรคสอง
ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 5 ได้นิยามศัพท์คําว่ากิจการไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า ไว้อย่างชัดเจน
โดยข้อความระบุว่า
ว่าที่รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ เตรียมรับศึกหนัก สร.กฟผ. เรียกร้องรัฐบาลให้เร่งแก้ไขประเด็นดังกล่าว ซึ่งตัวเลข ณ. 31 พ.ค 2562 กฟผ.ผลิตไฟลดลงเหลือเพียง 34% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าบริษัทเอกชนที่รัฐบาลอนุมัติให้ผลิตไฟฟ้าขายให้กฟผ.
รัฐบาลจึงสมควรต้องปรับสัดส่วนในแผนผลิตพลังงานไฟฟ้า (PDP) เสียใหม่ โดยยุติการอนุมัติให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกในระยะ10ปีนี้
ตามแผนPDP ยังกำหนดให้ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกกว่า 2หมื่นเมกกะวัตต์ ซึ่งตามแผนเดิม ก็มีเอกชนเตรียมเข้ามาชิงสัญญาผลิตไฟฟ้าขายรัฐ ซึ่งจะให้เอกชนทำไม่ได้จากคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน (4 พ.ค 2562 )หากรัฐบาลยังจะขืนอนุมัติให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าอีก ก็จะไม่สามารถทำให้การผลิตไฟฟ้าของกฟผ.เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า51% ภายใน 10 ปี
ประชาชนย่อมมีสิทธิตรวจสอบ และทักท้วง หากรัฐบาลและรัฐมนตรีพลังงานยังขืนอนุมัติให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกหลังจากนี้