ป.ป.ส ยาเสพติด เครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ

ป.ป.ส. แถลงจับเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวมกว่า 7.5 ล.

ป.ป.ส. แถลงผลงานการบูรณาการความร่วมมือ ภายใต้โครงการ Taskforce STORM จับกุมเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวมกว่า 7.5 ล้านบาท วันที่ 20 มกราคม 2562 นายนิยม เติมศรีสุข…

Home / NEWS / ป.ป.ส. แถลงจับเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวมกว่า 7.5 ล.

ป.ป.ส. แถลงผลงานการบูรณาการความร่วมมือ ภายใต้โครงการ Taskforce STORM จับกุมเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวมกว่า 7.5 ล้านบาท

วันที่ 20 มกราคม 2562 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 บช.ปส. Mr. Stephen Fry เจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ผู้แทนตำรวจแคนาดาประจำประเทศไทย และนายบัญชา โทสมัย ผู้เชี่ยวชาญด้านปราบปรามยาเสพติด สำนักปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการบูรณาการการจับกุมภายใต้โครงการ Taskforce STORM รวบนักค้ายาเสพติดเฮโรอีนข้ามชาติ 2 ราย พร้อมของกลางเฮโรอีนกว่า 3,740 กรัม ยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม 7.5 ล้านบาท

สำนักงาน ป.ป.ส. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 บช.ปส. ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และกรมศุลกากร เข้าจับกุมนายสตีเฟ่นส์ แบลร์ (Mr.Stephens Blair) อายุ 38 ปี สัญชาติแคนาดา ถือหนังสือเดินทางประเทศแคนาดา หมายเลข GA304845 และนายพหล ศิวสิริการุณย์ อายุ 27 ปี และของกลางเฮโรอีน 3,740 กรัม บรรจุโช้คอัพรถยนต์ 8 ตัว ณ คลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขยายผลเข้าตรวจค้นที่คอนโดมิเนียมย่านพญาไท คอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 และบ้านพักในเขตประเวศ กทม. สามารถ
ยึดกัญชา 1 กก. เฮโรอีน 0.5 กรัม ยาอี 2 เม็ด และ โคเคน 1 กรัม พร้อมอายัดทรัพย์สินมูลค่ารวม 7.5 ล้านบาท

คดีนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลการขนส่งพัสดุต้องสงสัย โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 เจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการขนส่งพัสดุดังกล่าวกลับเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้ง จึงเข้าตรวจสอบ พบโช๊คอัพรถยนต์ 8 ตัว ภายในบรรจุเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 3,740 กรัม จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ พร้อมขยายผลติดตามจับกุมเจ้าของพัสดุ คือ นายสตีเฟ่นส์ และนายพหล จากนั้นได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสดมูลค่า 2,557,000 ล้านบาท รถยนต์ เบนซ์ รุ่น E300 Coupe 1 คัน รถยนต์โตโยต้า แคมรี่ 1 คัน รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่น Z1000 1 คัน นาฬิกาข้อมือ AP Royal Oak 1 เรือน และนาฬิกา Rolex Oyster S GMT อีก 1 เรือน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 7,557,000 บาท

สำหรับการจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการ Taskforce STORM (หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วม ไทย- ออสเตรเลีย) โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าวการร่วมปฏิบัติการ เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการค้ายาเสพติด ภายใต้ความร่วมมือของ สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ
สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police; AFP)