ขนในอาหาร เส้นขนในอาหาร

เจ้าของร้านอาหารแฉ!! ลูกค้าดึงเส้นขนใส่อาหาร หวังต่อราคา

เจ้าของร้านอาหารอินเดียในเมืองพัทยา โพสต์เตือนภัยผู้ประกอบการ หลังถูกลูกค้านำเส้นขนใส่ภายในอาหาร ทำทีต่อว่าทางร้าน หวังต่อรองราคา นี่คือคลิปวิดีโอนาทีที่ลูกค้าซึ่งมาใช้บริการร้านอาหารอินเดียชื่อดัง ในตัวเมืองพัทยา พยายามดึงขนบริเวณขาเพื่อโรยใส่อาหาร ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพไว้ได้ โดยคลิปวิดีโอนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮันเตอร์” ได้นำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ระบุว่าเป็น เหตุการณ์เมื่อวันที่…

Home / NEWS / เจ้าของร้านอาหารแฉ!! ลูกค้าดึงเส้นขนใส่อาหาร หวังต่อราคา

เจ้าของร้านอาหารอินเดียในเมืองพัทยา โพสต์เตือนภัยผู้ประกอบการ หลังถูกลูกค้านำเส้นขนใส่ภายในอาหาร ทำทีต่อว่าทางร้าน หวังต่อรองราคา

นี่คือคลิปวิดีโอนาทีที่ลูกค้าซึ่งมาใช้บริการร้านอาหารอินเดียชื่อดัง ในตัวเมืองพัทยา พยายามดึงขนบริเวณขาเพื่อโรยใส่อาหาร ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพไว้ได้

โดยคลิปวิดีโอนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮันเตอร์” ได้นำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ระบุว่าเป็น เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “sahib khurana “ได้โพสต์ข้อความเตือนผู้ประกอบการร้านอาหารในกลุ่มเฟซบุ๊คชื่อ Bangkok foodies official ที่มีสมาชิกร้านอาหารเกือบ 2หมื่นคน มีเนื้อหาในข้อความว่า

“I own small indian restaurant in pattaya Karma Indian Restaurant . Please watch what these crooks are upto. Mixing hair in food and posting on trip advisor. Please fellow owners beware.”

แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ฉันเป็นเจ้าของร้านอาหารอินเดียเล็กๆ ในพัทยา และมีลูกค้าเข้ามากินอาหาร โปรดดูว่าเป็นมิจฉาชีพเหล่านี้หรือป่าว เพราะพวกเขากินอาหารจนเสร็จแล้ว แอบหยิบเส้นขนของตนลักษณะคล้ายเส้นผมลงไปในอาหาร แล้วทำทีต่อว่าทางร้าน เพื่อจะต่อรองราคาอาหารที่กินไป”

พร้อมแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งลูกค้ารายดังกล่าวได้เริ่มทำทีเป็นเอามือลงไปดึงขนที่ขา ในนาทีที่ 1.00 เป็นต้นไป
 และทันทีที่ข้อความที่ถูกโพสต์ลงไปนั้นทำให้สมาชิกในกลุ่มเข้ามาต่อว่าและแชร์ข้อความออกไปเป็นจำนวนมาก

ซึ่งทางร้านได้ฝากเตือนผู้ประกอบการและร้านอาหารในเขตเมืองพัทยาให้สังเกตกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ให้ดี หากพบเห็นบุคคลลักษณะตรงกับในรูป และอ้างว่ามีเส้นขนในอาหารให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมายได้เลย เพราะอาจทำให้ร้านเสียชื่อเสียง และยังทำให้เสียชื่อเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาอีกด้วย

เรามองดูว่าการกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ เสื่อมเสีย กรณีนี้ โดยมาตรา 137 ตามประมวลกฎหมายอาญาระบุว่า ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่มาตรา 326 ระบุว่า ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะ ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ / เดี๋ยวต้องดูว่าทางร้านอาหารจะมีการไปแจ้งความหรือไม่