ปัจจัยสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายตัวของเมืองหลวง ถือเป็นปัญหาของการทยอยปิดตัว ‘ร้านโชห่วย’
ปัญหาการทยอยปิดตัวของ ร้านโชห่วย จากการตรวจสอบพบว่าปัจจัยหลักมาจากสภาพเศรษฐกิจและการขยายตัวของเมืองหลวง โดยยิ่งนานไปร้านโชห่วยเหล่านี้กลับยิ่งน้อยลง ซึ่งขณะนี้ร้านหลายแห่งจำใจต้องยอมรับสภาพหากวันหนึ่งจะถึงเวลาของการอวสานร้านโชห่วย
บริเวณตลาดสามย่านซึ่งในอดีตที่นี่เป็นชุมชนที่มีคนอยู่กันจำนวนมาก พบว่าเมื่อก่อนมีร้านโชห่วยหลายร้าน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น โดยผลกระทบจากนโยบายร้านโชห่วยธงฟ้า เป็นเพียงปัจจัยรองที่ทำให้ร้านโชห่วยทยอยปิดตัวลง ทางเจ้าของร้านโชห่วยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า เนื่องจากร้านของตนตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง
เพราะฉะนั้นเมื่อมีการปรับปรุงทำเลให้สอดรับกับคนเมืองมากขึ้น จึงทำให้ร้านโชห่วยในละแวกเดียวกันต้องปิดตัว ส่วนร้านของตนก็มียอดขายลดลงกว่าครึ่ง สินค้าในร้านบางรายการก็ใช้เวลาเกือบเดือนกว่าจะขายหมด ทั้งที่เมื่อก่อนขายดีมากจนต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสินค้าที่ขายได้เรื่อยๆ ก็จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่ม และน้ำแข็ง ได้กำไรไม่มาก
ขณะที่เจ้าของร้านอีกราย เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย รวมถึงร้านสะดวกซื้อยอดนิยมที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คนเลือกไปซื้อร้านเหล่านั้นกันมากขึ้น โดยทุกวันนี้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือสามล้อบ้าง คนขับแทกซี่บ้าง ซื้อของแต่ละครั้งก็ไม่ได้เยอะมาก จึงอยากให้รัฐบาลช่วยอนุรักษ์ร้านโชห่วยและควบคุมการเปิดร้านสะดวกซื้อบางเจ้าให้น้อยลง
ขณะเดียวกันจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน พบว่าหลายคนหันมาสั่งซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค หรือบริโภค เนื่องจากสะดวกและไม่เสียเวลาในการเดินทางออกนอกบ้าน อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือธุรกิจร้านโชห่วยยังคงเป็นปัญหาที่ค้างคาว่าจะทำอย่างไรให้คงอยู่ต่อไปได้ในสภาวะปัจจุบัน หรือเจ้าของธุรกิจจะต้องทำใจว่าวันหนึ่งร้านโชห่วยจะต้องกลายเป็นตำนาน