ข่าวสดวันนี้ โทรแล้วขับ ใบสั่ง

หนุ่มโวย ตร. คร่อมรถคุยโทรศัพท์ แต่ถูกจับปรับ

วันนี้ (13 ก.ค. 2562) โลกออนไลน์ได้เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Guy Thanapon ได้มีการโพสต์คลิปขอคำอธิบายจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเขาถูกจับปรับในข้อหาใช้โทรศัพท์ระหว่างขี่รถจัรยานยนต์ ทั้งๆ ที่เวลาดังกล่าวเขาได้จอดรถข้างทาง และคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ โดยคลิปได้เผยให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถือใบสั่งจราจรมาหาเขาจากนั้นก็ได้แจ้งข้อหาโทรศัพท์ขณะขับรถ…

Home / NEWS / หนุ่มโวย ตร. คร่อมรถคุยโทรศัพท์ แต่ถูกจับปรับ

ประเด็นน่าสนใจ

  • คลิปตำรวจจับปรับหนุ่มขี่จยย.คุยโทรศัพท์ ทั้งๆ เวลานั้นหยุดรถแล้ว แต่ได้คร่อมรถอยู่
  • ด้านตำรวจเพราะจอดติดไฟแดง และไม่ได้ดับเครื่อง การใช้โทรศัพท์ในช่วงดังกล่าวจึงถือว่ามีความผิด
  • โทรแล้วขับมีโทษปรับ 400-1,000 บ.

วันนี้ (13 ก.ค. 2562) โลกออนไลน์ได้เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Guy Thanapon ได้มีการโพสต์คลิปขอคำอธิบายจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเขาถูกจับปรับในข้อหาใช้โทรศัพท์ระหว่างขี่รถจัรยานยนต์ ทั้งๆ ที่เวลาดังกล่าวเขาได้จอดรถข้างทาง และคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่

โดยคลิปได้เผยให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถือใบสั่งจราจรมาหาเขาจากนั้นก็ได้แจ้งข้อหาโทรศัพท์ขณะขับรถ ชายคนดังกล่าวก็พยายามอธิบายว่าเขาจอดรถแล้วแต่ไม่ได้ลงจากรถ ทำให้ตำรวจแจ้งกลับว่า ถ้าคุณจะจอดรถจักรยานยนต์ใช้โทรศัพท์คุณต้องลงมาจากรถ ไม่ใช่นั่งคร่อมแล้วใช้โทรศัพท์เช่นนี้เพราะถือว่าผิดกฎหมาย

ขณะที่ผู้โพสต์ได้มีข้อความระบุว่า ที่เอาคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หากจะใช้ดทรศัพท์ขณะขับรถจักรยานยนต์ ก็ควรลงจากรถไม่อย่างนั้นอาจถูกจับปรับอย่างเขาได้

ทั้งนี้เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุ ควรทำเพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนก็เพียงพอแล้ว

ด้านเพจ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เพราะผู้จอดรถไม่ดับเครื่องและพร้อมขับไปต่อ จึงถือว่าไม่ได้หยุดรถแต่อย่างใด

กรณีนี้ทาง สน.บางโพงพาง ได้ชี้แจงว่า ผู้โพสต์ได้หยุดรถบริเวณสัญญาณไฟจราจรทางข้าม ปากซอยสาธุประดิษฐ์34 โดยไม่ดับเครื่องยนต์ หลังจากนั้นได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งาน

ซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุมรถ หลังจากนั้นสักพักจึงได้ขับขี่รถออกมา ด.ต.ดิเรกฯ จึงได้เรียกให้หยุดและขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่พร้อมกับแจ้งข้อหาให้ทราบว่าใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

พร้อมได้ออกใบสั่งและได้เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้ ตามใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่เลขที่ 19 เล่มที่ 401186

ซึ่งเห็นได้ว่าการกระทำของผู้โพสต์ นั้นเป็นการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะควบคุมรถอยู่ในทางเดินรถ ไม่ว่ารถดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างการเคลื่อนที่หรืออยู่ในระหว่างการหยุดรถตามสัญญาณจราจร

โดยยกเว้นไว้เฉพาะการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น

อันเป็นความผิดตาม ม.43(9) , 157 พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ( เทียบเคียง บันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1181/2558 )

สำหรับข้อกฎหมายมาตรา 43 ตามพ.ร.บ.จราจรฯ บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถในกรณีต่างๆ เช่น ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่ขับ ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ฯลฯ

รวมทั้งมาตรา 43 (9) กำหนดห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถในลักษณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา

โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งหากผ่าผืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามดังกล่าว ก็จะต้องได้รับโทษปรับตั้งแต่ 400 ถึง 1,000 บาท