กรมราชทัณฑ์ อานนท์ นำภา

ราชทัณฑ์ แจงปมจดหมายอานนท์ – เหตุย้ายเรือนจำ ต้องตรวจโควิด-19

เป็นการนำตัวไปตรวจโควิด-19 เนื่องจากมีการย้ายเรือนจำ

Home / NEWS / ราชทัณฑ์ แจงปมจดหมายอานนท์ – เหตุย้ายเรือนจำ ต้องตรวจโควิด-19

ประเด็นน่าสนใจ

  • ราชทัณฑ์ชี้แจง ประเด็นจดหมายนายอานนท์ นำภา กรณีระบุว่า มีการจะนำตัวไผ่-ไมค์ ไปนอกแดน ในช่วงกลางคืน
  • โดยระบุว่า เนื่องจากแกนนำทั้ง 3 มีการย้ายเรือนจำ มาในช่วงเย็น จึงต้องนำไปตรวจร่างกาย ก่อนนำตัวคุมขังร่วมกับผุู้ต้องขังอื่นอีก 9 คน เพื่อแยกกักโรค
  • ซึ่งคณะแพทย์-พยาบาล มาตรวจในห้อง กลุ่มของแกนนำ 7 รายไม่ยินยอม จึงจำเป็นต้องแยกห้องกับนักโทษอีก 9 ราย

จากกรณีที่เฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” ได้กล่าวถึงกรณีได้มีการโพสต์จดหมายของนายอานนท์ นำภา โดยได้ระบุว่า มีการนำตัวไผ่-ไมค์ ไปควบคุมนอกแดน ในช่วงเวลา 21.30 น. 00.15 น. และ 02.30 น. พร้อมทั้งระบุว่า อาจจะเป็นอันตรายได้

ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ได้ขี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า กรณี เฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้มีการโพสต์ภาพข้อความที่เขียนด้วยลายมือระบุว่าเป็นการเขียนโดยนายอานนท์ฯ อ้างว่า ในคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการปฏิบัติงานที่ผิดปกติของเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ที่พยายามแยกตนเองออกจากกลุ่มผู้ต้องขังคนอื่นในยามวิกาล จนเกรงว่าจะได้รับอันตรายแก่ชีวิตนั้น

กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว ขอชี้แจงว่า เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 15 มีนาคม 2564 ถึงเช้าวันที่ 16 มีนาคม 2564 ภายหลังจากที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับย้ายตัวนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำราษฎร และ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” แกนนำกลุ่ม Wevo มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 18.40 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจร่างกาย ก่อนนำตัวมาคุมขังพร้อมกับผู้ต้องขังคนอื่นอีก 9 รายในห้องควบคุมผู้ต้องขังภายในแดนแรกรับ เพื่อแยกกักโรคตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์

ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 นาฬิกา นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วยคณะแพทย์และพยาบาลจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เข้ามาดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ต้องขังภายในห้องดังกล่าว ซึ่งมีทั้งสิ้น 16 ราย แต่มีผู้ต้องขังที่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อเพียง 9 ราย และไม่ประสงค์ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อ 7 ราย คือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายปิยรัฐ จงเทพ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายอานนท์ นำภา พร้อมพวก จึงต้องดำเนินการแยกกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวรวม 7 คน ออกจากผู้ต้องขังที่ยินยอมรับการตรวจเชื้อ เพื่อเป็น การแยกกักกันโรคและสังเกตอาการเพิ่มเติมที่สถานพยาบาล ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์และกระทรวง สาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ผู้ต้องขังทั้ง 7 คนดังกล่าว คือนายอานนท์ฯ พร้อมพวก ได้ปฏิเสธการย้ายที่คุมขังออก จากห้องกักกันโรคเดิมไปยังสถานพยาบาลโดยอ้างถึงความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องแยกกลุ่มผู้ต้องขังอีกกลุ่มที่ให้ความยินยอมในการตรวจหาเชื้อจำนวน 9 รายไปคุมขังที่ห้องกักกันโรคห้องอื่นแทน โดยการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ ตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องดำเนินการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 และแยกกักตัวผู้ต้องขัง เข้าใหม่ และรับย้ายทุกรายออกจากผู้ต้องขังอื่น เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน

โดยขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดตามกฎ ระเบียบ และพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด ไม่สามารถกระทำการใดโดยพลการได้ อีกทั้ง การทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นการกระทำความผิดทางอาญา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถกระทำได้อยู่แล้ว