ประเด็นน่าสนใจ
- แฮชแท็ก “#เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ขึ้นเป็นเทรนด์ทวิตอันดับ 1 หลังประเด็นที่ น.ส.แพรวา ขับรถชนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อปี 2553 กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง
- มีการพาดพิง ตำหนิไปถึงนามสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- ล่าสุด พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้ออกมาเตือนชาวเน็ตที่พาดพิงจนทำให้นามสกุลเสื่อมเสีย และพร้อมที่จะฟ้องร้อง
ล่าสุด พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้ออกมาเตือนชาวเน็ตที่พาดพิงจนทำให้นามสกุลเสื่อมเสีย และพร้อมที่จะฟ้องร้อง
หลังจากที่โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ คดี น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ชน จนมีผู้เสียชีวิต 9ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 แต่ผ่านมา 9 ปี เหยื่อและครอบครัวยังไม่รับการเยียวยา จนทำให้ “#เทพหัสดินณอยุธยา” ขึ้นเทรนด์ทวิตอันดับ1
ล่าสุด พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีต สนช. และอดีตประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. ในฐานะสมาชิก ตระกูล “เทพหัสดิน ณ อยุธยา” เปิดเผยว่า ต้นตระกูล เป็นนามสกุลพระราชทาน เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำโดยส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับนามสกุล ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มี บรรพบุรุษหลายคนที่ทำคุณงามความดี รับใช้ให้ชาติบ้านเมืองมามากมาย
การที่นำเหตุที่เกิดขึ้นของคนๆเดียวในตระกูล แล้วไปย่ำยี ไปเกี่ยวข้องกับนามสกุล นั้นไม่แฟร์ ฉะนั้นหากใครที่มีการกล่าวพาดพิง หรือเขียน หรือลงในโซเชียลฯ ที่เกี่ยวข้องกับนามสกุล หรือ วงศ์ตระกูล จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ อยากจะฝากสื่อ และสังคม โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ ต้องให้ความเป็นธรรมในกรณีที่เกิดขึ้นว่า เป็นการกระทำส่วนบุคคล อย่านำราชสกุล ไปเหมารวมทั้งหมด อีกทั้งมีการพาดพิงไปถึง พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นบิดาของตน และประกอบคุณงามความดี เป็นทหารรับใช้แผ่นดินไทย อย่านำไปโยง ซึ่งหากใครกล่าวพาดพิงจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะดำเนินการ อย่างเด็ดขาดในทุกกรณี
ขณะที่โลกออนไลน์ได้โพสต์ข้อความขอให้เพจดัง ช่วยระดมทุน เปิดรับบริจาคช่วยเหลือแม่ของนายศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ ด็อกเตอร์เป็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว หลังมีข่าวว่าต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เมื่อเสียเสาหลักของครอบครัวไป