ประเด็นน่าสนใจ
- แม่แพรวา” ประกาศขายที่ดิน 100 ล้าน ชดใช้เหยื่อ
- เผยทุกข์ตลอด 9 ปี ลูกตายทั้งเป็น ระแวงทุกวันหวั่นฆ่าตัวตาย วอนอย่าด่าราชสกุลเทพหัสดิน
จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ที่ “น.ส.แพรวา” ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ หลังผ่านไป 9 ปี ครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตร้องขอความเป็นธรรม ไร้ซึ่งการช่วยเหลือ เยียวยาจากผู้ก่อเหตุ
ล่าสุดวันที่ 18 ก.ค.62 รายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณวรัญญู เกตุชู ผู้เสียหาย , คุณถวิล เช้าเที่ยง แม่ดร.เป็ด หนึ่งในผู้เสียชีวิต มาพร้อม “เดชา กิตติวิทยานันท์” ทนายคลายทุกข์ พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” แม่ของแพรวา ซึ่งส่งโฉนดที่ดินทั้งหมดให้หนุ่ม กรรชัยมาโชว์ในรายการ
คุณแม่สบายดี?
ถวิล : “สบายตามประสาคนแก่ ตอนนี้ก็ร้อยมาลัย การค้าก็ไม่ดีเท่าที่ควร ขายได้แค่วันพระวันโกน นอกนั้นขายไม่ได้ ตลาดเราเที่ยงปั๊บก็ไม่มีคนแล้ว สุขภาพร่างกายก็เจ็บเมื่อยตามธรรมชาติ คือแม่ผ่าหลังแล้วใส่เหล็กไว้”
เคยสัมภาษณ์คุณแม่ ในปีนั้น แม่บอกว่าถ้าวันนี้ลูกอยู่ ชีวิตไม่เป็นแบบนี้?
ถวิล : “ใช่ เขาให้ฉันเลิกตั้งแต่มาจากเมืองนอก บอกว่าเลิกขายได้มั้ย ก็บอกว่าเลิกไม่ได้ แม่ทำไหว เราทำได้ก็ทำไปเหอะ เขาได้เงินเดือนครั้งแรกจะให้เรา 8 พัน จะให้เลิก แต่ไม่ให้เลิก ถ้าเลิกก็แย่สิ 4 ปีแกมาตายแบบนี้”
ทางฝั่งแพรวา ครอบครัวเคยติดต่อมามั้ย?
ถวิล : “ไม่นะ ตอนตายสองสามวันเขามา เขาให้เงินทำบุญ 3 หมื่น แล้ววันที่ 9 ม.ค. 54 เขาก็ให้อีกหมื่นนึง ไปให้ที่ตลาด พี่สาวแม่แพรวาเป็นคนให้ เขาบอกไปสวนผึ้งมา แล้วทำบุญด้วย แต่ฉันบอกไม่ต้องให้แล้ว วันที่ 9 ฉันลอยอังคารแล้ว ทำบุญหมดไปแล้วก็บอกว่าไม่ต้องให้ ทำบุญหมดไปแล้ว”
หลังจากนั้นไม่ติดต่อมาอีกเลย?
ถวิล : “วันนั้นเขาก็ยัดใส่กระเป๋าฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาให้อีกหมื่นนึง”
เขาฟ้องศาลแม่ไปมั้ย?
ถวิล : “ไปเป็นบางครั้ง แต่ไม่บ่อย ไกล่เกลี่ยก็มา ที่ศาลเยาวชนมาน้อยครั้ง แต่แม่กุ้งแม่คนที่ขับรถตู้เขามาบ่อย”
คุณวรัญญู คุณคือเหยื่อคนนึงที่อยู่ในรถคันนั้นคุณรอดมาได้ อาการเป็นยังไง?
วรัญญู : “ตอนนั้นเข่าซ้ายแตก ไหปลาร้าหัก แขนขวาหัก มีแผล กระจกปัก ผมนั่งติดริมหน้าต่าง
ตัวคุณหลังรอดมาได้ รักษาตัวนานมั้ย?
วรัญญู : “ประมาณ 3 ปี แต่ถ้านอนนิ่งๆ บนเตียงตามที่ได้ทวิตไป ก็ 2 เดือน นอนติดเตียง หลังจากนั้นค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา”
เขาติดต่อมามั้ย?
วรัญญู : “ผมมีโอกาสได้คุยกับแม่และน้องแค่ตอนผมอยู่รพ. สักอาทิตย์นึงหลังจากนั้นเขามาเยี่ยม มาขอโทษ”
เขาเสนอช่วยเหลืออะไรยังไง?
วรัญญู : “มีให้เงินคล้ายๆ กับคุณแม่ ให้เงินคุณแม่ผมนะ น่าจะหลักหมื่น ไม่แน่ใจประมาณหมื่นสองหมื่น เป็นค่าใช้จ่าย เพราะแม่ผมต้องหยุดงานมาดูแลผม”
วันที่ร้องศาลเรียกไปยังไง?
วรัญญู : “ผมกับแม่รวมกัน 1 ล้านบาท มีค่าขาดรายได้ของแม่ รวมค่าเสียโอกาสของเรา อันนี้เป็นทางทนายคำนวนและเรียกร้องให้ เป็นค่ารักษาพยาบาล”
ของคุณแม่คือค่าเสียโอกาส?
วรัญญู : “เขาทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงิน เป็นค่าขาดประโยชน์”
ครั้งนั้น ศาลชั้นต้นสั่งยังไง?
วรัญญู : “สั่งจ่ายให้ผม 4 แสนบาท ของแม่ 4 พันบาท”
อุทธรณ์ล่ะ?
วรัญญู : “ลดเหลือครึ่งนึง ของผมเหลือ2 แสนกว่า ของแม่ก็ไม่ได้เลยเป็นศูนย์ ล่าสุดก็ยืนตามศาลชั้นต้น ผมต้องได้ 4 แสน รวมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี ทั้งหมด 9 ปี ของแม่ก็เหมือนเดิม 4 พันบาท”
ของคนอื่นๆ ล่ะ?
ถวิล : “เรียกเยอะๆ ก็มี ของฉัน ที่ทำงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติเขาเรียกมาให้ ทนายของเขา เขาเรียก 19 ล้าน ฉันวางศาลไป 2 แสนตอนนั้น ทนายทางศาลบอกว่าเงินจำนวนนี้ รวมแล้วร้อยสองบาท เรารวมยอดเป็นสองแสนวางศาล 19 ล้านเขาเรียกมา เขาตัดสินให้ของฉันล้านห้า ของแม่จริง ดร.อีก 1 ล้าน แล้วต่อมาเขาลด 20 เปอรเซ็นต์ เขาอุทธรณ์ ก็ลดไป 5 แสน”
พอมาล่าสุดฏีกา ก็ให้เท่าเดิม?
ถวิล : “ก็ให้เท่าเดิม”
วันนี้ทางฝั่งเขาไม่ได้มา ในมุมคุณตอนแรกจะทำยังไง?
วรัญญู : “ตอนแรกที่ฟังคำพิพากษาเราคาดหวังจะเจอเขา เพราะ 9 ปีเราไม่เคยเจอเขาเลย”
ถวิล : “เราเจอหนนึง เพราะเขาไปไกล่เกลี่ย เขาเอาพวงมาลัยไปให้ที่ศาลเยาวชน 2 ปี เขาเอาพวงมาลัยมาไหว้ที่ฉัน แพรวาไหว้แม่ดร. พี่เป็ดสิ เขาพูดแบบนี้ ฉันบอกว่าไม่ต้องไหว้แล้วแหละ แหม 2 ปีกว่าแล้วทำก็ไม่เกิดประโยชน์ ก็พูดแบบนี้จริงๆ ไม่โกหก พ่อแม่ลุงเขามองฉันไหว ก็พูดจริงๆ ไหว้ทำไม ไหว้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำยังไง ฉันอยากได้ลูกฉัน เงินเท่าไหร่ก็เอาลูกคืนไม่ได้”
คุณวรัญญู เคยมีการติดต่อมั้ย?
วรัญญู : “เขาไม่เคยติดต่อหาผม จนช่วงที่มีการไก่เกลี่ยสักเดือน มี.ค. เม.ย. ศาลแพ่งรัชดา พอจบการไกล่เกลี่ย ผมก็โทรหาเขา แต่ผ่านทนายเขา ทนายจะนัดผมเจอที่ร้านกาแฟ แต่พอถึงวันเจอ ผมบินมาจากภูเก็ตแต่เขาไม่มาแล้ว ไปเจอในศาลอีกที เลยรู้สึกว่าพอแล้วแหละ เหมือนที่เคยเล่า 9 ปี เขาไม่ได้อยากหันหน้ามาคุยกับเรา เขาเองดังใช้กระบวนการยุติธรรมหาข้อยุติ ไม่งั้นคงไม่ดันทุรังมาถึงชั้นฏีกา เลยรู้สึกว่าตอนนี้มันจบแล้ว เขาก็ควรเคารพศาล เหมือนที่เขาก็ยึดในหลักการใช้กระบวนการยุติธรรมมาตลอด กระบวนการจบแล้ว คุณก็ต้องชดใช้ ให้จบแค่นั้น”
เขาส่งโฉนดที่ดินให้ทางผม พ่อคุณแพรวา เป็นที่ดินประมาณ 21 ไร่ และมีแม่คุณแพรวา อยู่ในนี้ เป็นคุณพ่อคุณแม่แพรวา และมีโฉนดที่ปราณบุรี ที่ดินหมู่บ้านเมืองทอง รวม 3 ฉบับ รวม 300 ตารางวา จุดประสงค์ส่งมาเพื่ออะไร ไปคุยกับครอบครัวแพรวา อยู่ในสายกับคุณแม่แพรวา เอกสารโฉนดที่ดิน จุดระสงค์ส่งมาให้ต้องการบอกอะไร
ลัดดาวัลย์ : “จุดประสงค์อยากจะเรียนญาติผู้สูญเสียทุกท่าน ดิฉันและครอบครัว สามีและครอบครัว อยากแสดงความจริงใจและบริสุทธิ์ใจใหเห็นว่าเรามีทรัพย์สินตรงนี้ที่พร้อมจะขายและมอบให้ทุกๆ ท่าน เพราะตัวเงินเรามีไม่พอที่จะวางศาล เวลามันถึงล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ หาไม่ทันจริงๆ ค่ะ”
ในมุมคุณแม่และครอบครัว ทุนทรัพย์ที่เป็นตัวเงินมีไม่พอ?
ลัดดาวัลย์ : “ไม่พอค่ะ เราอยากให้เห็น และไม่อยากให้ทางคุณป้าถวิลหรือทุกๆ คนต้องเสียเวลาไปนั่งสืบทรัพย์ อายัดทรัพย์ เรามีทรัพย์ทั้งหมดก็เอาให้คุณหนุ่มเห็นเลยตรงนี้จะได้ไม่ต้องสืบทรัพย์ให้ขั้นตอนมันช้าไปอีก ทำให้ทุกคนได้รับเงินเยียวยาช้า
ให้ขาย ?
ลัดดาวัลย์ : “ฝากคุณหนุ่มขายได้มั้ยคะ ถ้าเศรษฐีท่านใดมีเงินมากพอ ที่คิดจะช่วยเหลือตรงนี้ ขอความกรุณาซื้อที่ดินเราทีเถอะค่ะ เราจะได้นำเงินไปเยียวยาตามคำสั่งศาลทั้งหมด ไม่บิดพลิ้วใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะต้องล้มละลาย หรือย้ายทรัพย์หนี ไม่เคยย้ายทรัพย์หนีทั้งสิ้นนะคะ”
เจตนารมณ์ต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่หนีไปไหน ถ้าขายจให้ผู้เสียหายทุกๆ คน ?
ลัดดาวัลย์ : “ถูกต้องค่ะ ไหนๆ พูดถึงค่าเยียวยา ขออนุญาตเรียนถึงท่านรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมท่านใหม่ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ดิฉันร้องขอให้ท่านอนุมัติเงินกองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเยียวยาทุกๆ ท่านแทนดิฉันไปก่อนได้มั้ยคะ แล้วให้ดิฉันไปเป็นลูกหนี้กับกระทรวงกองทุนยุติธรรมแทน ดิฉันมีตรงนี้ค้ำประกันได้หมดเลย แล้วขายได้ก็เอาเงินไปใช้คืนหลวง คืนกองทุนยุติธรรม มันจะได้ไม่ช้า ดิฉันสงสารและเข้าใจ ถึงความเศร้าเสียใจของทุกๆ คน แต่ก็เกินกำลังความสามารถในตอนนี้จริงๆ”
วันที่มีการพิพากษาทำไมไม่ไป?
ลัดดาวัลย์ : “คุณพ่อตั้งใจจะไปกับทนาย แต่คุณพ่อป่วยรักษาตัวอยู่ค่ะ ใช้วิธีธรรมชาติบำบัด ไม่ขอบอกว่าเป็นโรคอะไรนะคะ ทนายซึ่งเป็นญาติกันบอกว่าไม่ต้องไปครับ เขาไปแทนเอง เป็นคดีแพ่ง เพราะอาญาก็ไปทุกนัดแล้ว อันนี้เป็นคดีแพ่งเดี๋ยวจะจัดการให้ พ่อเขาบอกว่าต้องไปนะ จะได้รู้ว่าเท่าไหร่ จะได้หาเงินเพื่อไปเยียวยาพวกเขา ทุกๆ ท่าน จะได้ไปช่วยเหลือทุกๆ คน”
ทนายไม่ให้ไป?
ลัดดาวัลย์ : “เราคิดว่าทนายจะไปค่ะ ตามที่สัญญากับเราไว้ จนตอนเย็นทนายไม่ส่งข่าวมาซะที ว่าศาลตัดสินยอดเท่าไหร่ เราโทรหา ปรากฎว่าเขาไม่ได้ไป เราสองคนก็ช็อกและพูดไม่ออก รู้สึกเสียใจทั้งโกรธและเสียใจ ทุกอย่างประดังประเดมาหมด ก็ต้องกราบขอโทษคุณป้าถวิลและทุกท่านอีกครั้ง ในความผิดพลาดตรงนี้ ทนายไม่ได้ไป แต่ดิฉันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบตรงนี้ไปได้ เพราะเขาเป็นตัวแทนดิฉันค่ะ ต้องกราบขออภัยตรงนี้”
กรณีที่ทางทนายเอง พูดจาไม่ดีกับผู้เสียหาย อยากได้ก็ไปฟ้องเอา ต่างๆ นานา ทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ?
ลัดดาวัลย์ : “ตรงนี้ มันหนีความรับผิดชอบไม่พ้นค่ะเพราะเขาเป็นทนายครอบครัวเรา ก็ต้องกราบขอโทษทุกๆ คนตรงนี้แทนทนาย และขอโทษในนามครอบครัวที่เขาพูดจาให้กระทบกระเทือนใจ ก็ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งจากใจจริงนะคะ เราหนีไม่พ้นความรับผิดชอบค่ะ”
ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อถึง 9 ปี ดึงเรื่องหรือเปล่า?
ลัดดาวัลย์ : “ไม่อยู่ในความคิดที่จะดึงเรื่องเลยค่ะ ถ้าเรามีเงินสดตั้งแต่ต้นไม่ต้องมีการฟ้องร้องเลยค่ะ เราสามารถจัดให้ทุกๆ ท่านได้เลย แต่เมื่อมีการฟ้องร้อง ตัวเลขค่อนข้างสูงในการฟ้อง แต่ไม่ได้สูงไปสำหรับค่าชีวิตทุกท่าน เพราะประเมินค่าไม่ได้ ทุกคนที่สูญเสียไปเราไม่สามารถประเมินค่าได้ มันไม่มีค่าชีวิตทั้งนั้น
เมื่อมีการฟ้องร้องทุกอย่างก็สู่ขั้นตอน กระบวนการกฎหมาย พอศาลชั้นต้นตัดสินมา ก็มีการอุทธรณ์กันเกิดขึ้น ทางฝั่งผู้เสียหายทุกๆ ท่านหลายๆ คนไม่ได้อุทธรณ์ก่อนนะคะ แต่บสางคนอุทธรณ์ก่อน เราก็ต้องอุทธรณ์แย้ง ไม่มีความคิดดึงเวลาหรือเลี่ยงใดๆ ทั้งสิ้นเลยค่ะ คนก็คิดว่าดึงเวลาแล้วย้ายทรัพย์หนี เราไม่เคยย้ายทรัพย์หนี เราไปตามขั้นตอนกระบวนกฎหมาย กระทรวงการยุติธรรมเมื่อเขาฎีกามา เราก็ฎีกาแย้ง เป็นขั้นตอน ไม่ได้คิดจะหลีกเลี่ยงใดๆ เลย”
วันนี้ประเด็นสังคมเริ่มบานปลาย ไปถึงขั้นตระกูลเทพหัสดิน ?
ลัดดาวัลย์ : “ตรงนี้ต้องกราบขอบรรดาชาวเน็ตทุกๆ ท่านสื่อมวลชนทุกท่าน ขอร้องเถอะค่ะมันเป็นความผิดส่วนตัว ของดิฉันและพ่อของน้องเองที่ไม่สามารถดำเนินการทุกอย่างให้ราบรื่นได้ทันท่วงที ญาติราชสกุลเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้ กราบขออภัยครอบครัวทุกคน ขออภัยราชกุลทุกๆ ท่านที่ต้องมัวหมอง
ถูกดึงมาเกี่ยวข้องตรงนี้ ขออภัยชาวเน็ต ขอให้ด่าดิฉันและคุณพ่อน้อง อย่าเกี่ยวพันถึงตระกูลเลย เรื่องทั้งหมด ดิฉันเป็นพ่อแม่ต้องทำให้ดีที่สุด หาเงินเยียวยาให้ได้ทันเวลาที่สุด คนอื่นไม่ได้ทำผิดร่วมกับเราด้วยเลย ขอความกรุณาอย่าด่าพวกเขาเลยนะ และขอโทษตระกูลทุกๆ คนด้วย”
อยู่กันมายังไง 9 ปี?
ลัดดาวัลย์ : “9 ปีแล้วก็จริง แต่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่มีใครมีความสุข เราก็ทุกข์ เขาก็ทุกข์ ทุกคนสูญเสีย ทุกคนบาดเจ็บ เสียใจเราก็เสียใจ ลูกเราอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น แม้จะยังอยู่ให้เห็นหน้า ทุกคนอยู่ได้ด้วยยานอนหลับ ถ้าไม่ใช้ยานอนหลับ ตีสี่ตีห้าถึงจะหลับได้ ไม่มีใครมีความสุข เพื่อนฝูงมาบ้านเราต้อนรับเพื่อน แต่ใจร้องไห้ตลอด คิดตลอดจะช่วยเหลือทุกคนยังไง จะทำยังไง ไม่เคยคิดหลีกเลี่ยงไปไหน”
คุณแพรวาเป็นยังไง?
ลัดดาวัลย์ : “ตอนนี้อยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ เคยสมรสครั้งนึงแต่เลิกรากันไปหมดแล้ว อย่าดึงบุคคลที่ 3 มาเกี่ยวข้องเลย น้องอยู่กับพ่อแม่ เขาอยู่เหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า อยู่ด้วยความหวาดระแวงว่าลูกจะฆ่าตัวตายวันไหน ตรงนี้เป็นความทุกข์อีกส่วนของเรา เราเข้าใจทุกคนเพราะเราก็มีลูก ทุกคนก็มีลูก”
แพรวาเปลี่ยนชื่อนางสกุลหนีความผิด?
ลัดดาวัลย์ : “ไม่ใช่ค่ะ แพรวาคือชื่อเล่น ชื่อจริงคืออรชร แต่พอเขาจะไปเรียนหนังสือเขาสอบเทียบ เขาก็กังวลว่าถ้าเขาชื่อนั้นอยู่จะโดนแอนตี้มั้ย เด็กก็อยากเรียนหนังสือ แม่ก็อยากให้เขากลับสู่สังคมไปเรียนหนังสือ จบแล้วจะได้มาทำประโยชน์ให้สังคมได้บ้าง เลยให้เปลี่ยนชื่อเป็นบัวบูชาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเขา ให้เขาเรียนหนังสือสำเร็จรอดปลอดภัยออกมา แค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้มีอย่างอื่น แต่คนก็ยังจำนามสกุลได้
เขาก็เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง จะพูดคุยกับใคร จะอะไรเขาระแวงไปหมดเลย เขาเลยบอกขอใช้นามกสุลแม่ได้มั้ย แม่มายด์มั้ยถ้าต้องใช้นามสกุลแม่ ครอบครัวพี่น้อง พี่ป้าน้าอาจะว่ามั้ยถ้าคนอย่างเขามาใช้นามสกุลเขา”
โฉนดที่ส่งมา ขายได้เลย?
ลัดดาวัลย์ : “ขายได้ค่ะ ที่ดิน 21 ไร่ที่ปราณ”
ทั้งหมดศาลตีมา 24 ล้านกว่า บวกดอกเบี้ย ตั้งแต่ 9 ปีก่อน เฉลี่ยแล้ว 40 กว่าล้าน?
ลัดดาวัลย์ : “โฉนดที่ดิน 21 ไร่แปลงนี้เขาขายกันอยู่ 50 ล้านค่ะ ถ้าไม่พอก็ขายอีกที่นึงที่เมืองทองธานีได้ค่ะ 300 ตารางวา นั่นก็ 55 ล้านค่ะ ยังไงก็จะเอามาชดใช้ให้ได้อยู่แล้วค่ะ แต่มันจะช้าอย่างที่นำเรียนไว้ค่ะ”
ทำไมไม่ขายตั้งแต่แรก?
ลัดดาวัลย์ : “คนที่จะซื้อเราเขากังวลว่าเรามีคดีอยู่ในศาลฎีกายังไม่ลงมา เขาไม่รู้ยอดแน่ว่าฎีกาจะตัดสินมาเท่าไหร่ คนมาซื้อไปก็กังวลว่าจะเป็นการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ จะทำให้เหมือนกับผิดอาญาทั้งคนซื้อและครอบครัวเราด้วย ทั้งที่เราตั้งใจขายเพื่อนำเงินมาเยียวยาทุกๆ ท่าน”
ถ้าขายไม่ได้จะทำยังไง?
ลัดดาวัลย์ : “ถึงเรียนว่าจะขอความกรุณาท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน กรุณานำเงินกองทุนจากกระทรวงยุติธรรมมาเยียวยามาจ่ายก่อน ขอเป็นหนี้กระทรวง แล้วขายตรงนี้ไปคืนกระทรวง ตรงนี้จะเร็วที่สุด ขอฝากผ่านรายการค่ะ ถึงรัฐมนตรี ช่วยเหลือคุณป้ากับทุกท่านก่อนเถิด ขอร้องค่ะ”
สุดท้ายยืนยันว่าไม่ได้หนี?
ลัดดาวัลย์ : “ไม่เลยค่ะ จะรับผิดชอบทุกๆ ชีวิตค่ะ ผู้บาดเจ็บบางท่านก็ได้รับไปแล้ว แล้วก็ขอโทษน้องวรัญญูที่ทนายพูดอะไรกระทบกระเทือนใจ พูดจาไม่ดีไป แม่ก็รับผิดชอบตรงนี้แต่เพียงผู้เดียว ขอโทษทุกคน ขอโทษสังคม ขอโทษตระกูล ขอโทษราชสกุล ขอโทษผู้สื่อข่าวทุกท่านที่ต้องมาเหนื่อยกับเราตรงนี้ ได้โปรดอภัยให้เราด้วยค่ะ”