ประเด็นน่าสนใจ
- สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ยืนยัน แม่น้ำโขงแห้งไม่ได้เกิดจากการเพราะปล่อยน้ำให้ชาวนาทำนาปลังมากจนเกินไป
- สาเหตุเนื่องจากจีนกักน้ำ พร้อมกับทางสปป.ลาวอยู่ระหว่างทดสอบผลิตไฟฟ้า
- เบื้องต้นได้ประสานทั้งสองประเทศแล้ว คาดภายใน 2-3วันสถานการณ์น้ำแล้งจะเริ่มดีขึ้น ส่วนสาเหตุน้ำแล้งทั่วประเทศ เนื่องจากฝนตกน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 30 ขณะที่ปลายเดือนสิงหาคมสถานการณ์ภัยแล้งจะค่อยๆดีขึ้น
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำแล้งในประเทศไทย ว่า สถานการณ์น้ำทั่วประเทศโดยรวมขณะนี้มีอยู่ร้อยละ 47 ซึ่งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสานจะมีน้ำน้อย
เนื่องจากช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมามีการปลูกพืชมากกว่าแผนที่วางไว้ 1.2 ล้านไร่ จึงต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่เก็บไว้ใช้ช่วงฤดูฝนจนทำให้น้ำหลังสิ้นสุดฤดูแล้งที่ผ่านมาน้อยกว่าปีก่อนถึง 5 พันล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งปีนี้มีฝนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงร้อยละ 30 นอกจากนี้ฝนที่ตกในช่วงนี้ กลับไม่ตกในพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้เขื่อนต่างๆต้องระบายน้ำออกมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือการเกษตรกร
ส่วนที่มีการคาดการณ์กันว่า เหตุที่น้ำที่กักเก็บไว้มีน้อยกว่าที่ควรเพราะก่อนหน้านี้มีการปล่อยน้ำออกมาจำนวนมาก เพื่อทำนาปรังโดยเฉพาะ ยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงแต่เนื่องจากผลผลิตในช่วงนั้นมีราคาค่อนข้างดี หากภาครัฐเข้าไปห้ามอาจเกิดเป็นประเด็นทางการเมืองได้ และสาเหตุหลักเนื่องจากปริมานน้ำฝนที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วงหน้าแล้วปีถัดไปจะต้องมีการคุมเข้มการเพาะปลูก เพราะต้องกันน้ำไว้อุปโภคบริโภค ซึ่งการแก้ไขคือ ต้องเร่งทำฝนหลวง พร้อมกับการขุดน้ำบาดาลเพิ่ม และทำฝายชะลอน้ำพร้อมขุดลอกแหล่งเก็บกักน้ำ
ส่วนสาเหตุที่แม่น้ำโขงแห้งนั้น เนื่องจากประเทศจีนลดการปล่อยน้ำในแม่น้ำโขงลงครึ่งหนึ่งเมื่อวันที่ 5 ก.ค. และเริ่มปล่อยน้ำอีกครั้งวันที่ 18 ก.ค.เป็นต้นไป ประกอบกับทางสปป.ลาวมีการทดสอบปั่นกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี ทำให้ต้องลดการระบายน้ำ จนระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลงกะทันหัน ขณะนี้ได้ส่งหนังสือไปยังสปป.ลาวให้หยุดการทดสอบแล้ว คาดภายใน2-3วันนี้ระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ