‘สุเทพ’ เดินคารวะแผ่นดินพะเยา เจอคนถามเรื่องไม่เล่นการเมือง เจ้าตัวแจงชัดเจนทุกอย่างทำเพื่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พะเยา ว่า การเดินคารวะแผ่นดินตามโครงการปฏิบัติการคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชน ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) วันที่ 69 ที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค
พร้อมด้วย นายประสาร มฤคพิทักษ์ นางสาวชนิดาภา แก้วภราดัย สมาชิกพรรค และว่าที่ผู้สมัคร จ.พะเยา ของพรรคที่ประกอบด้วย นางภาสินี รวมสุข ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นายอร่าม จันทร์จม ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 นายธนาพัฒน์ เผ่าแก้ว ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 โดยทั้งหมดได้ออกเดินพบปะประชาชน เริ่มที่ตลาดแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะยา มีประชาชนให้การต้อนรับมากมายและจากนั้นนายสุเทพและคณะได้ออกจาก จ.พะเยา ไปยัง จ.เชียงราย
โดยก่อนออกจาก จ.พะเยา นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์ ว่า จากการที่ได้เดินในพื้นที่จ.พะเยาที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนให้การต้องรับดีกว่าที่คิด อย่างวันนี้ตอนเช้ามีคนมาให้ขนมให้ดอกไม้ และมีเข้ามาขอถ่ายรูปพูดคุยให้กำลังใจ ขณะที่มี 2 คน ที่เข้ามาถามว่า “ไหนว่าไม่เล่นการเมืองแล้ว” ซึ่งตนได้เรียนว่า คำว่าเล่นการเมืองหมายความว่าสมัคร ส.ส. ไปแสวงหาตำแหน่งใดๆ ทางการเมืองจะเป็นในพรรคการเมือง หรือในรัฐบาลทั้งหมดตนไม่ทำ
ไม่ลงสมัครส.ส.ทั้งบัญชีรายชื่อหรือแบบเขตเลือกตั้ง ตนไม่รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล แต่ช่วยประชาชนให้เขาตั้งพรรคการเมืองของประชาชนให้ได้ เพื่อเป็นเครื่องมือทำงานช่วยชาติช่วยบ้านเมืองต่อไป ซึ่งจากการอธิบายมีคนหนึ่งที่ยอมรับเหตุผล และอีกคนไม่ค่อยยอม มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่คนเราย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
เมื่อถามว่าการเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้งมีผลกระทบต่อพรรคอย่างไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จริงๆ เราเตรียมตัวพร้อมที่จะสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เราเข้าใจดีทางสำนักพระราชวังประกาศกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในฐานะคนไทยก็ถือเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นหากกิจกรรมจะต้องไปกระทบต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของงานพระราชพิธีก็สมควรจะปรับ
จากนั้นนายสุเทพ และคณะได้เดินทางออกจากจ.พะเยา ไปยัง จ.เชียงราย โดยจุดแรกที่เริ่มคารวะแผ่นดินและคารวะประชาชนคือบริเวณตลาดนัดป่าแดด บ้านวัดวังศิลา ต.สันมะค่า อ.ป่าแดด โดยมีประชาชนให้การต้อนรับกว่า 300 คน