ค้านผังเมืองอีอีซี ผังเมืองอีอีซี

กลุ่มเครือข่ายภาคตะวันออก เดินเท้าคัดค้านจัดทำผังเมืองผังเมืองอีอีซี

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 62 ที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ กลุ่มเครือข่ายเพื่อนตะวันออกวาระเปลี่ยนตะวันออก จำนวน 50 คน เดินทางด้วยรถไฟจากจังหวัดฉะเชิงเทรา มายังสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการพิจารณาหนังสือคัดค้านการจัดทำผังเมืองรวมฉบับใหม่ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก…

Home / NEWS / กลุ่มเครือข่ายภาคตะวันออก เดินเท้าคัดค้านจัดทำผังเมืองผังเมืองอีอีซี

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 62 ที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ กลุ่มเครือข่ายเพื่อนตะวันออกวาระเปลี่ยนตะวันออก จำนวน 50 คน เดินทางด้วยรถไฟจากจังหวัดฉะเชิงเทรา มายังสถานีรถไฟหัวลำโพง

เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการพิจารณาหนังสือคัดค้านการจัดทำผังเมืองรวมฉบับใหม่ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี หรือ ผังเมืองอีอีซี ที่ได้ยื่นคัดค้านไว้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายกัญจน์ ทัตติยกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายเพื่อนตะวันออก ได้นำกลุ่มเครือข่ายฯเดินเท้า 1 กิโลเมตรเพื่อไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ สำนักงานอีอีซี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางรัก เข้าชี้แจงรายละเอียดการชุมนุมกับแกนนำ เพื่อกำหนดเส้นทางการเดินไม่ให้เดินกีดขวางการจราจร

เมื่อถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ นายกัญจน์ ได้อ่านแถลงการณ์หยุดผังเมืองอีอีซี และยื่นหนังสือขอคัดค้านคำชี้แจงของสำนักงานอีอีซี ซึ่งเห็นว่าการจัดทำผังเมืองรวมอีอีซีไม่เป็นไปตามหลักการผังเมือง

และเรียกร้องให้สำนักงานอีอีซีและคณะกรรมการอีอีซี ยุติการพิจารณาให้ความเห็นชอบและดำเนินการใหม่ตั้งแต่ต้น แล้วขอให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย

นายกัญจน์ กล่าวว่า แม้ร่างผังเมืองอีอีซีฉบับปรับปรุง จะมีข้อดีที่ช่วยลดพื้นที่ชุมชนเขตเมือง เพิ่มพื้นที่สีเขียวเขตชลประทาน แต่การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในหลายจุดยังไม่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่

เช่น บริเวณ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง บริเวณต้นน้ำคลองระบม ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม เป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกง แหล่งน้ำสำคัญของภาคตะวันออก

และใช้ในการรักษาระบบนิเวศ รอยต่อ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี แหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่สำคัญระดับประเทศ แต่พื้นที่เหล่านี้ ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรม และกระบวนการจัดทำผังเมืองอีอีซี ยังเร่งรัดและขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค เพื่อรองรับโครงการอีอีซี และตามกรอบ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กำหนดให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี

ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในลำดับต่อไป ระยะเวลาที่เหลือไม่ถึง 3 สัปดาห์ เครือข่ายภาคตะวันออก จึงกังวลว่า หลายข้อท้วงติงจะไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่นโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภา ก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จะเดินหน้าพัฒนาอีอีซีอย่างเต็มที่