วันนี้ ( 9 มี.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้ากรณีการจับกุมดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 6 กลุ่มในการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า
ในการชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ก่อนมีการเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณด้านหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้มีกลุ่มผูุ้มนุม ซึ่งจะมีการแบ่งการดำเนินคดีออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกันคือ
กลุ่มแรก นายปิยรัฐ จงเทพ พร้อมพวก 18 คน
โดยในกลุ่มนี้จะถูกดำเนิตคดีในฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อเตรียมก่อความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม.107 ซึ่งการดำเนินการของนายปิยรัฐ ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยตาม มาตรา215 วรรค 1 – 2 โดยได้มีการสืบสวน พบการกระทำผิด นำมาซึ่งการจับกุมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว
กลุ่มที่สอง ผู้ที่ถูกจับกุม-หลบหนี
โดยเป็นกลุ่มที่ถูกจับกุมเช่นเดียวกับกลุ่มแรก ซึ่งหลังจากที่ถูกควบคุมตัวมาและได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย นำไปสู่การหนีการจับกุม (กรณีหนีจากรถควบคุมตัวผู้ต้องหา) โดยผู้ต้องหาได้เข้ามาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ ที่สน.พหลโยธิน และได้รับการปล่อยตัวไปแล้วนั้น จะการพิสูจน์ทราบว่า ทั้ง 27 คนนั้นเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีหรือไม่ และหากเป็นผู้ที่เข้าข่ายหลบหนีก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนผู้ที่มาแสดงตัวในวันดังกล่าว ก็จะมีการออกหมายเรียก และดำเนินคดีต่อไป
…
กลุ่มที่ 3 – ผู้ที่เข้าทำลายรถของทางราชการ
จากเหตุการณ์ที่มีภาพ-คลิป การทุบทำลายรถของทางราชการ และร่วมในการชิงตัวผู้ต้องหา ทำร้ายเจ้าพนักงานและชิงทรัพย์ของกลางบางส่วน จะมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งในส่วนของการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้หลุดพ้นจากการควบคุมตัว, ร่วมกันต่อสู้กับเจ้าพนักงานตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และใช้อาวุธ นอกจากนี้ยังมีความผิดเรื่องของการทำให้เสียทรัพย์ของทางราชการอีกด้วย
กลุ่มที่ 4 – ผู้ที่ทุบทำลายแนวรั้วศาลอาญา – นำสิ่งของมาเผา และบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการเวลากลางคืน ซึ่งบางส่วนเชื่อมโยงกับความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล โดยกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
กลุ่มที่ 5 – ผู้ชุมนุมรายอื่นๆ ที่ร่วมทำกิจกรร เนื่องจากถือเป็นความผิด ตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กลุ่มที่ 6- ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายเจ้าพนักงาน
โดยในเวลาประมาณ 23.00 ของวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 พบว่า มีผู้ที่ใช้หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก และอาวุธ ยิงเข้าใส่รถเจ้านห้าที่ตำรวจ จนได้รับความเสียหายคือ รถกระบะ 1 คัน รถหกล้อ 2 คัน และรถบัส 1คัน ซึ่งหลังจากที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบแล้วเชื่อได้ว่า เป็นการยิงด้วยอาวุธปืน จึงอยู่ในระหว่างสอบสวนและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม