โครงการเตาเผาขยะ

อัศวินย้ำ! การลาออกของรองผู้ว่าฯ ไม่เกี่ยวกับโครงการเตาเผาขยะ

วันที่ 24 ก.ค.62 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณเป็นเงิน 13,140…

Home / NEWS / อัศวินย้ำ! การลาออกของรองผู้ว่าฯ ไม่เกี่ยวกับโครงการเตาเผาขยะ

วันที่ 24 ก.ค.62 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณเป็นเงิน 13,140 ล้านบาท พร้อมกับมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลาออกในขณะนี้ ว่า

โครงการดังกล่าวเป็นการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย แบ่งออกเป็น 2 โครงการ คือ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม และศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มีระยะเวลาดำเนินการถึง 20 ปี ซึ่งหากคำนวณแล้ว แต่ละแห่งจะใช้งบประมาณ ประมาณ 6,000 ล้านบาท เฉลี่ยใช้งบประมาณปีละประมาณ 200 ล้านบาท

หรือหากคิดเป็นวัน เฉลี่ยวันละ 800,000 บาท โดยค่าดำเนินการจะไม่เกิน 900 บาทต่อตัน ซึ่งเตาเผาขยะเดิมที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเมื่อปี 2556 และเริ่มเดินเครื่องในปี 2559 ใช้งบประมาณกำจัดขยะถึงตันละ 970 บาท จะเห็นได้ว่ากรุงเทพมหานครได้เตาเผาที่ใหม่กว่า แต่ราคาต้นทุนการดำเนินการถูกกว่าเตาเผาเดิมเกือบ 100 บาท/ตัน

ทั้งนี้ บริษัทที่ชนะการประมูลในโครงการนี้จะต้องใช้เงินลงทุนเองจำนวนประมาณ 3 พันล้านบาท รวมถึงดำเนินการเดินเครื่องกำจัดขยะด้วย และภายหลังจาก 20 ปี บริษัทเอกชนจะต้องโอนเตาเผาขยะทั้งหมดให้กรุงเทพมหานครดูแล

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับราคาการกำจัดขยะด้วยวิธีฝังกลบในปัจจุบันพบว่ามีราคาใกล้เคียงกับการกำจัดด้วยการเผามาก แต่ในอนาคตพื้นที่ที่ต้องใช้ในการฝังกลบอาจไม่มี เนื่องจากจังหวัดอื่นคงไม่ยินยอมให้เอาขยะจากกรุงเทพมหานครไปฝังกลบอีกต่อไป

เนื่องจากพื้นที่ที่เป็นจุดฝังกลบในรัศมี 1 กม. จะไม่สามารถปลูกพืชได้ รวมทั้งอาจมีปัญหามลภาวะ ซึ่งขยะส่วนใหญ่เป็นขยะเปียกมากกว่าขยะแห้ง มลพิษต่าง ๆ อาจซึมลงไปในชั้นใต้ดินก่อให้เกิดมลพิษได้

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้โครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยฯ ยังอยู่ระหว่างรายงานผลการพิจารณาและขออนุมัติให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลจำนวนถึง 8 ราย และที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม มีจำนวน 5 ราย ซึ่งหากมีการเอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้รับเหมาหรือรายละเอียดไม่โปร่งใสคงไม่มีบริษัทสนใจเข้าร่วมประมูล

อย่างไรก็ดี กรุงเทพมหานครจะพิจารณาจากความทันสมัยของเทคโนโลยีในการเผาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถได้ประโยชน์จากการเผามูลฝอยกลับคืนมาในรูปของพลังงานไฟฟ้า และเป็นไปตามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และขอยืนยันว่าการใช้งบประมาณในการกำจัดขยะจะไม่เกิน 900 บาทต่อตัน

สำหรับกรณีที่มีบริษัทฟ้องร้องกับศาลปกครอง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นั้น กรุงเทพมหานครได้ชี้แจงรายละเอียดกับ สตง. และ ปปช. เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งศาลปกครองได้ทำการตรวจสอบและยกคำร้องดังกล่าวแล้ว ซึ่งทุกอย่างทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส

สำหรับการลาออกของรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครทั้ง 2 ท่าน คือ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม และนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ นั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า ในเรื่องของนายจักกพันธ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตนรู้สึกเสียดายมาก

โดยก่อนหน้านี้นายจักกพันธุ์ฯ เคยปรึกษาเรื่องลาออกแล้วถึงสองครั้ง เพราะได้รับหน้าที่ดูแลภารกิจที่หนัก แต่ได้ขอให้อยู่ช่วยกันทำงานก่อน นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยังได้มีการโทรศัพท์หารือถึงเรื่องสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครกันอยู่

จึงขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเตาเผาขยะนี้อย่างแน่นอน และในส่วนรองผู้ว่าฯ คนใหม่ คือ พ.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ และ นายศักดิ์ชัย บุญมา นั้น จะมอบหมายและแบ่งหน้าที่กำกับดูแลงานตามความเหมาะเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง