นักมวยไทย

​อาทิตย์ เรือนเพชร นักมวยไทย แจงร่วมม็อบฮ่องกง

จากเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อขาว เกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีดำ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการเข้าปะทะกันของคนสองกลุ่มอย่างรุนแรงจนถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 45 คนและมีคลิปถูกเผยแพร่ในข่าวต่าง ๆ มากมาย โดยในภาพที่ปรากฎจะเห็นกลุ่มชายเสื้อขาวบุกเข้าไปทำร้ายกลุ่มคนเสื้อดำ ซึ่ง นายแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล…

Home / NEWS / ​อาทิตย์ เรือนเพชร นักมวยไทย แจงร่วมม็อบฮ่องกง

จากเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อขาว เกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีดำ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยมีการเข้าปะทะกันของคนสองกลุ่มอย่างรุนแรงจนถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 45 คนและมีคลิปถูกเผยแพร่ในข่าวต่าง ๆ มากมาย โดยในภาพที่ปรากฎจะเห็นกลุ่มชายเสื้อขาวบุกเข้าไปทำร้ายกลุ่มคนเสื้อดำ

ซึ่ง นายแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนเอง โดยอ้างว่าจากภาพที่ถูกบันทึกได้ในขณะเกิดเหตุนั้น หนึ่งในกลุ่มคนเสื้อขาวที่เข้าทำร้ายผู้ชุมนุมสนับสนุนประชาธิปไตย คือ อาทิตย์ เรือนเพชร นักมวยไทยรายหนึ่ง ที่สังกัดค่ายมวยไทยแห่งหนึ่งย่ายเกาลูน ฮ่องกง จนถูกแชร์อย่างมากในโลกโซเชียล

นายอาทิตย์ เรือนเพชร อดีตนักมวยไทยออกมายอมรับแล้วว่า วันที่เกิดเหตุไปกินข้าวกับพ่อบุญธรรมชาวฮ่องกง พ่อเป็นคนชวนให้ไปด้วย ไปครั้งนี้เพื่อปกป้องพ่อบุญธรรมเท่านั้น

เนื่องจากพ่อบุญธรรมเป็นผู้ที่มีบุญคุณ ช่วยสนับสนุนให้ตนเริ่มชกมวยมาโดยตลอด ตอนนี้อยากจะขอโทษคนไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

มีข้อมูลว่า อัตราตอบแทนสำหรับนักมวยไทยที่ไปทำงานเบื้องต้น สำหรับนักมวยไทยที่เลิกชกไปแบบระดับธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีดีกรีแชมป์เปี้ยนใดๆ จะอยู่ในราวๆ เดือนละ 8 พันเหรียญฮ่องกง หรือราวๆ 3.1 หมื่นบาท ยังไม่รวมค่าทิปพิเศษอีก

ในฮ่องกงนั้นโดยปกติ จะไม่ค่อยมีนักมวยไทยเป็นนักเลง อันธพาล ต่างจากเขตปกครองพิเศษมาเก๊า เพราะที่นั่นเป็นบ่อน มีการพนันเป็นอาชีพหลักมากมาย คนที่เดินทางมาสอนมวยไทย จึงจะไม่ไปข้องเกี่ยวกับเรื่องของนักเลง ผู้มีอิทธิพล รวมทั้งเรื่องของการเมืองต่างๆ พวกผมจะไม่เข้าไปพัวพันกับเรื่องเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

โดยจะมีการว่าจ้าง นักมวยไทยจำนวนมากที่เลิกชกไปแล้ว ให้ไปเป็นครูสอนมวย และเปิดโรงยิมสอนกันอย่างจริงจังมานานหลายสิบปี เช่นเดียวกันที่เกาะมาเก๊า ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป บรรดาผู้มีอิทธิพลหรือเจ้าของบ่อนการพนัน ก็จะว่าจ้างอดีตนักมวยไทยไปเป็นบอดี้การ์ดเพื่อเดินตามคอยคุ้มกัน รวมทั้งไปเก็บค่าคุ้มครอง หรือที่เรียกกันว่า “ค่าต๋ง” เป็นเรื่องปกติ