กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย บางกลอย

ศาลให้ประกันตัว ชาวบ้านบางกลอย 22 ราย มีเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่ที่ถูกจับกุม

ศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้ประกันตัวชาวบ้านบางกลอยทั้ง 22 ราย โดยไม่มีหลักประกัน มีเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต

Home / NEWS / ศาลให้ประกันตัว ชาวบ้านบางกลอย 22 ราย มีเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่ที่ถูกจับกุม

ประเด็นน่าสนใจ

  • ศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้ประกันตัวชาวบ้านบางกลอยทั้ง 22 ราย
  • โดยไม่มีหลักประกัน มีเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • เพื่อป้องกันและระหว่างรอการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 22 คน

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาซึ่งกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 ด้วยศาลยุติธรรมมีนโยบายให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีวันหยุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564

โดยศาลจังหวัดเพชรบุรีจึงได้ดำเนินการสอบถามความประสงค์ขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาทั้ง 22 ราย จากนั้นศาลจึงจัดทำคำร้องขอปล่อยชั่วคราวส่งไปให้ผู้ต้องหาทั้งหมดลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วส่งผ่านสถานที่คุมขังกลับมายังศาลจังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้ศาลจังหวัดเพชรบุรีพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน โดยมีเงื่อนไขว่า “ห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมในระหว่างการพิจารณาคดี และแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 22 คนปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด

การใช้วิธีการตั้งผู้กำกับดูแลดังกล่าวแทนการเรียกหลักประกันเป็นมาตรการใหม่ที่ศาลยุติธรรมนำมาใช้เพื่อให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยเข้าถึงสิทธิที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกันใดๆ ขณะเดียวกันเป็นการลดความเสี่ยงที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยอาจหลบหนีหรือไปก่อความเสียหายในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการเรียกให้วางหลักประกันเช่นที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ทาง รองอธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า มีชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เพิ่ม ตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.พ. ที่ผ่านมา จำนวน 157 ไร่ และวันนี้บุกรุกเพิ่มอีก 1 แปลง ประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 23 ล้านบาท ทั้งยังมีชาวบ้านเข้าใจแผ่นดินเพิ่มจากเดือน ก.พ. 39 คน เป็น 89 คน ดังนั้นหากไม่ดำเนินการวันนี้ป่าอาจโดนบุกรุกเพิ่ม

สำหรับผลการปฏิบัติงานของอุทยานแห่งชาติ​ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย​ รวมจำนวนราษฎรบ้านบางกลอยในปฏิบัติการ ทั้งสิ้น 87 ราย​ คัดกรองบุคคลที่เป็นเด็ก นำส่งผู้ปกครอง จำนวน 37 คน​ (ชาย 19 หญิง 18) ผู้กระทำผิดตามหมายจับ​ จำนวน​ 22 คน (ชาย 15 หญิง 7) และทำการการเปรียบเทียบปรับ จำนวน 28 คน (ชาย 13 หญิง 15)