‘ชัชชาติ’ ย้ำ เลือกตั้งนี้แพ้ไม่ได้ ขอประชาชนออกไปเลือกตั้งล้มเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย เพื่ออนาคตลูกหลาน พร้อมอาสาแก้ปัญหาเกษตร ชูเกษตรทางเลือกสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมือง ลงพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดมหาสารคาม เยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษ ชุมชนบ้านหนองบัว ตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช
สวนผักนี้ เป็นการลงทุนลงแรงร่วมกันของชุมชนปลูกผักส่งให้ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าปีนี้มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลิตข้าวได้ปริมาณน้อยลงเหลือ 3 กระสอบต่อ 10 ไร่ จึงหันมารวมกัน 18 ครัวเรือนปลูกผักปลอดสารพิษ 25 ไร่ตามความต้องการของท้องตลาดสร้างรายได้สัปดาห์ละ 10,000 บาท
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ได้พูดคุยถึงปัญหาและขั้นตอนการผลิตและส่งออกผักกับชาวบ้าน พร้อมทั้งรดน้ำสวนผัก ซื้อผัก และรับประทานผักปลอดสารพิษในไร่ หลังจากนั้นนายชัชชาติยังช่วยเก็บต้นหอม และอวยพรว่า “ใครกินผักกาละมังนี้ ขอให้แข็งแกร่ง”
นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า จุดที่ลงพื้นที่เป็นมิติใหม่ เนื่องจากการทำข้าวได้ผลไม่ดี เกษตรกรจึงมีการทำผักขึ้นมาเสริม เป็นผักไร้สารพิษ ส่งตรงเข้ากรุงเทพมหานครฯ สร้างรายได้มาทดแทนข้าว ซึ่งการขายข้าวมี 3 มิติ คือ ราคาขายข้าว ผลผลิตต่อไร่ และต้นทุนการผลิต แต่ราคาขายข้าวเกษตรกรควยคุมไม่ได้ เพราะตลาดโลกเป็นคนกำหนด ดังนั้นมี 3 วิธีที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวคือ การพยุงราคาข้าว, การลดต้นทุน, และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่
นอกจากนั้นคือการหารายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร เช่น หมู่บ้านนี้ที่มีน้ำบาดาลดีจึงดึงน้ำบาดาลขึ้นมาปลูกผักปลอดสารพิษได้ ซึ่งมีทางเลือกอื่นอีกมากที่จะมาช่วยเสริมรายได้และรัฐบาลเองต้องเข้ามาช่วยเหลือและให้ความรู้ ต้นไปดูสถิติการส่งออกข้าวสารต่อไร่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกจาก 10 อันดับสูงกว่าเมียนมาร์ประเทศเดียว
แสดงว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำ ดังนั้นถ้าทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม หรือลดต้นทุน แม้จะขายในราคาเท่าเดิมแต่ก็ได้รายได้เพิ่ม ซึ่งต้องมองในหลายมิติ ตนมองว่าเกษตรทางเลือกจะเป็นตัวช่วยที่ดี แต่สำคัญคือต้องตอบโจทย์ตลาด และถ้าสามารถตัดคนกลางได้ ถ้าสามารถตัดราคาส่วนต่างได้
หากทำให้เกษตรกรเข้าใกล้ผู้บริโภคได้มากขึ้น เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องผ่านคนกลางมาก ซึ่งช่องทางตรงนี้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้บริโภคได้ ประกอบกับการคมนาคมที่ดีจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า
“ผมว่าก็เหมือนการทำธุรกิจทั่วไป บริษัททำธุรกิจก็ไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์อย่างเดียว ต้องมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างเพื่อลดความเสี่ยง ต้องบริหารต้นทุนเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลง ต้องหาตลาดให้เป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ให้ใช้ทรัพยากรเท่าเดิม แรงงานต่อหน่วยมากขึ้น
ถ้าเรามองเกษตรกรเหมือนเป็นธุรกิจผมเชื่อว่าจะมีทางออกอีกเยอะแยะเลยที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นได้ ไม่ใช่มองแค่เดียวราคาอย่างเดียวซึ่งเป็นรูปแบบเก่า เราดูให้ครบวงจร ผมเชื่อว่าอนาคตทุกคนยังต้องกินข้าวและอาหารปลอดภัยเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่จะมาเสริมรายได้ให้เกษตรกรได้”
จากนั้น นายชัชชาติ เดินทางมาพบปะประชาชนในชุมชน ชาวบ้านผูกผ้าขาวม้าและผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือเพื่อต้อนรับ นายชัชชาติกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ได้มาดูแปลงผักมีวิธีการจัดการที่น่าสนใจ และรัฐบาลชุดหน้าจะเข้ามาลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ให้ทุกคนเท่าเทียมกันทั้งการเกษตร การศึกษา และสาธารณสุข
การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจาก ตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. นำปัญหาของประชาชน นำเสนอเข้ามาแก้ไขในคณะรัฐมนตรีอย่างตรงจุด โดยนายชัชชาติสัญญาว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลรายได้สินค้าเกษตร การรักษาพยาบาล การศึกษาให้เท่าเทียม เพราะมันคือประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน
นายชัชชาติ ย้ำว่า คนที่ฆ่าเราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่นักการเมืองแต่คือเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย คนพวกนี้หัวใจไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ และมาหลอกคนประชาธิปไตยในช่วงการเลือกตั้ง จะทำลายประชาธิปไตยไทยในระยะยาว จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาไม่มีโครงการอะไร แต่พอใกล้ช่วงเลือกตั้งกลับมีโครงการขึ้นมามากมาย
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงแพ้ไม่ได้ และต้องได้ ส.ส. 375 คนจาก 500 คน เนื่องจากรัฐบาลได้แต่งตั้ง ส.ว. 250 คนที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกไว้ด้วย ตนจึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันออกไปเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่เพียงช่วยเราหรือช่วยพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการช่วยระบบประชาธิปไตยให้ไปรอด เพื่ออนาคตของลูกหลาน และเพื่ออนคาตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
จากนั้นนายชัชชาติเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์เฉลิมพระเกียรติ ที่ทำโดยคนรุ่นใหม่โครงการ Young Smart Farmer ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิตและขายสินค้าเกษตร ส่วนวันพรุ่งนี้ นายชัชชาติ และทีมงานจะไปลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ อ.นาดูน และ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม