ป.ป.ช. ปลอมเฟซบุ๊ก ปอท.

ผอ.สำนักไต่สวนฯ ป.ป.ช. พบ พงส.ปอท. แจ้งความถูกมือดีปลอมเฟซบุ๊ก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ บก.ปอท.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) นายจักรกฤช ตันเลิศ ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาคการเมือง 1 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เปตอง…

Home / NEWS / ผอ.สำนักไต่สวนฯ ป.ป.ช. พบ พงส.ปอท. แจ้งความถูกมือดีปลอมเฟซบุ๊ก

ประเด็นน่าสนใจ

  • ผอ.สำนักไต่สวนฯ ป.ป.ช. ดอดเข้าพบ พนักงานสอบสวน ปอท. แจ้งความถูกมือดีปลอมเฟซบุ๊ก
  • .ในบัญชีดังกล่าว มีเพื่อนเป็นนักการเมืองรวมถึงข้าราชการและนักข่าวจำนวนมาก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ บก.ปอท.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) นายจักรกฤช ตันเลิศ ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาคการเมือง 1 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เปตอง ด่านปรีดา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพนำรูปภาพตนเองไปปลอมบัญชีเฟซบุ๊กในชื่อ Jukkrich Tunlert ซึ่งมีเพื่อนในแอคเค้าท์เป็นนักการเมืองรวมถึงข้าราชการและนักข่าวจำนวนมาก

ภายหลังให้ปากคำเสร็จ นายจักรกฤช ได้เดินออกมาพบผู้สื่อข่าวที่มาเฝ้ารอทำข่าวบอกตั้งใจไม่อยากจะให้เป็นข่าวแต่อย่างใด ก่อนชี้แจงว่า ตนเพิ่งถูกปลอมเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก และไม่ทราบว่าคนร้ายมีจุดประสงค์เพื่ออะไร ที่ได้ใช้ภาพของตนไปตั้งบนบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว

ซึ่งตนเองมีเพื่อนเป็นหลักพันคน มีนักการเมืองดังประมาณ 2-3 คน รวมถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระและนักข่าว ซึ่งตรวจสอบพบว่าเพิ่งได้บัญชีเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และคนร้ายเริ่มที่จะโพสต์โดยพยายามแสร้งเป็นตนเอง แม้ขณะนี้จะยังไม่เกิดความเสียหายอื่นๆ ขึ้น รวมถึงเรื่องทางคดีความที่อยู่ในมือของ ป.ป.ช.ตอนนี้ก็ไม่ได้เรื่องใดที่น่าเป็นกังวลเป็นพิเศษ แต่ตนกังวลว่า คนร้ายจะนำตำแหน่ง ผอ.สำนักไต่สวนฯ ซึ่งทำหน้าที่ไต่สวนนักการเมือง และเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระต่างๆ ไปเรียกรับผลประโยชน์จนเกิดความเสียหายในอนาคต จึงมาแจ้งความในวันนี้ ทั้งนี้ สำหรับเฟซบุ๊กจริงของตนนั้นจะใช้ชื่อภาษาไทย ขณะที่ของปลอมได้ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งยังสะกดผิดอีกด้วย

ด้าน ร.ต.อ.เปตอง กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบฯ” และ “นำภาพบุคคลอื่นเข้าสู่ระบบฯ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง” ตามมาตรา14(1) และ มาตรา 16 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงรับเรื่องไว้ลงในบันทึกประจำวัน รายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ ก่อนติดตามตัวผู้ปลอมแปลงมาดำเนินคดีต่อไป