คนยกอภิปราย พิธา – พล.อ.อนุพงษ์ โดนใจที่สุด อยากเห็นในสภา

ประเด็นน่าสนใจ

จบไปแล้วสำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ โดยการแถลงนโยบายดังกล่าวใช้เวลาไปทั้งหมด 34 ชั่วโมง ซึ่งจากช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย

ทั้งการโต้แย้งกันของเหล่าสมาชิก รวมถึงการตัดสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีราชรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เกิดเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก

แต่เหตุการณ์อันเป็นที่ประทับของคนไทยทั้งประเทศ ในการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายดังกล่าว คือการลุกขึ้นอภิปรายของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และการลุกขึ้นตอบข้ออภิปรายของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในเรื่องการเกษตร เพราะทั้งคู่ได้ถามและตอบ จนเกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุดนับตั้งแต่มีการอภิปรายแถลงนโยบายมา

พร้อมทั้งยกให้เป็นการประชุมรัฐสภาในสร้างสรรค์ ที่ประชาชนอยากให้ผู้ทรงเกียรติตัวแทนของประชาชนควรเอาเป็นแบบอย่าง มากกว่าการอภิปรายโจมตี ขุดอดีต เสียดสียั่วยุ แบ่งพรรคแบ่งพวก คล้ายกับการทะเลาะกันไปมาเหมือนเช่นทุกวันนี้ เมื่อผู้ใหญ่รับฟังบรรยากาศดีๆ ก็เกิดขึ้นในสภา อาทิ

• การอภิปรายลักษณะนี้คือสิ่งที่ประชาชนอยากได้อยากรู้มากที่สุด
• ถามดีตอบดีสร้างสรรค์ อันไหนตอบไม่ได้ก็ตอบรับ
• ฟังแล้วสบายใจแลกเปลี่ยน ปรึกษา ร่วมหาทางแก้ไข เป็นนิมิตหมายที่ดี อยากให้การประชุมสภาเป็นแบบนี้

สำหรับการอภิปรายของนายพิธา เขาได้พูดถึงปัญหาของการเกษตรไทย และแนะนำให้รัฐบาลเร่งแก้ไข โดยแบ่งเป็น 5 ข้อ คือ การแก้ไขเรื่องที่ดิน ปัจจุบันเกษตรกรเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรร้อยละ 45 จึงต้องปลดล็อกเรื่องนี้, การแก้ปัญหาหนี้สิน

โดยเฉพาะหนี้สินนอกระบบของเกษตรกร, การประกันราคาพืชผล และการใช้ยาฆ่าแมลง, การแปรรูปเพื่อเพิ่มราคาสินค้าของการเกษตร และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็จะทำให้เกษตรกรชาวไทยได้ลืมตาอ้าปากเลี้ยงชีวิตและครอบครัวได้

ที่ดิน คือ คอขวดของปัญหาเกษตรกรรมเกือบทั้งหมด ที่ดิน คือ ชีวิต ที่ดิน คือ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่ดิน คือ กระดุมเม็ดแรก เมื่อเราติดให้ถูกต้อง ปัญหาที่เหลือจะแก้ได้ง่ายมาก

แต่ถ้าเกิดเราติดผิด ปัญหาอื่นที่เราพยายามที่จะแก้ ก็จะไม่สามารถแก้ได้อย่างยั่งยืน เพราะเกษตรกรเหล่านี้ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง เขาจึงไม่มีทรัพย์สินที่จะสามารถค้ำประกัน

และไม่สามารถที่จะเข้าสู่ระบบทุนนิยมได้ พวกเขาไม่มีโฉนดที่จะเข้าไปจำนองในธนาคาร ทำให้เขาไม่สามารถที่จะเข้าสู่ระบบการเงินได้ หมายความว่า มีความจำเป็นที่จะต้องออกไปกู้นอกระบบ 

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้ลุกขึ้นชื่นชมการอภิปรายของนายพิธา และพร้อมรับข้อเสนอไปปฏิบัติ แต่การจะแก้ปัญหาในบางข้อ ต้องใช้กฎหมาย ส่วนประเด็นนายทุนมีเงินถือครองที่ดินรัฐ ตนขอพูดว่า ไม่มี ยกเว้นที่ดินบ้าน และพร้อมรับการตรวจสอบ

นายกฯ พร้อมข้ออภิปราย ไปแก้ไข ให้กับประชาชนในทุกด้าน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งก่อนการยุติการประชุมครั้งนี้ว่า ขอบคุณประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาที่อภิปรายให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์และข้อเสนอแนะต่างๆ ในการประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะนำไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน และจะนำไปพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่อไป

โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ในเดือนสิงหาคม รัฐบาลจะประชุมชี้แจงส่วนราชการ เพื่อสร้างความเข้าใจซึ่งต้องแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยรัฐบาลจะกำหนดกรอบเวลา เป้าหมาย ตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นรูปธรรมสอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมพร้อมขอให้สมาชิกรัฐสภาและประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของตนจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ โดยคำนึงถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม สุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส รักษาวินัยการเงิน การคลัง เพื่อนำประเทศไทยดำเนินการไปอย่างมั่นคงในศตวรรษที่ 21