ข่าวสดวันนี้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล สมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เมาแล้วขับ

ศาลสั่งคุกเสี่ยเบนซ์ เมาขับ ชนรถรองผกก.-ภรรยาเสียชีวิต

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (31 ก.ค. 2562) ที่ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ผู้พิพากษาได้พิจารณาในคดีที่อัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี…

Home / NEWS / ศาลสั่งคุกเสี่ยเบนซ์ เมาขับ ชนรถรองผกก.-ภรรยาเสียชีวิต

ประเด็นน่าสนใจ

  • ศาลตัดสินแล้วเสี่ยเบนซ์เมาแล้วขับ ชนรถ รอง ผกก. เสียชีวิตพร้อมภรรยา
  • ให้จำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสน แต่ให้รอลงอาญา เพราะสารภาพผิดและไม่มีประวัติต้องโทษ
  • ผู้ก่อเหตุขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ไม่ติดใจเอาความ พร้อมดูแลให้ดีที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (31 ก.ค. 2562) ที่ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ผู้พิพากษาได้พิจารณาในคดีที่อัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์

หลังเมาแล้วขับรถเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ที่บริเวณสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก เป็นเหตุให้ทั้งสองเสียชีวิต โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา

ซึ่งจากการพิจารณาจากพยานและหลักฐานจึงมีคำสั่งพิพากษาตัดสินให้จำคุก 6 ปีปรับ 2 แสนบาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา

โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชม.ในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา

เสี่ยนเบนซ์ ขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายให้อภัย ไม่ติดใจเอาความ

ด้านนายสมชาย ผู้ก่อเหตุได้เปิดใจหลังจากศาลมีคำสั่งตัดสินว่า ขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัยไม่ติดใจเอาความในครั้งนี้ ซึ่งจากนี้ไปจะมอบเงินให้บุตรสาวทั้ง 2 คน ของ พ.ต.ท.จตุพร คนละ 10,000 บาท ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 20,000 บาท รวมเดือนละ 40,000 บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี

พร้อมฝากไปถึงผู้เสียชีวิตว่าขอให้ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี และสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คนให้ดีที่สุด พร้อมกันนี้ก็ขอขอบคุณศาลที่ให้โอกาสในการกลับตัวเป็นคนดี รวมถึงขอบคุณสังคมที่ให้อภัยด้วย

ขณะที่บุตรสาวของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้เสียหายเผยว่า แม้ช่วงแรกยากที่จะทำใจแต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้างทำให้ผ่านพ้นวิกฤตินั้นมาได้ ซึ่งการที่ตนให้อภัยผู้ก่อเหตุนั้น ก็เพราะไม่อยากรู้สึกโกรธต่อกัน อีกทั้งคู่กรณีได้ดูแลเป็นอย่างดี จากนี้ไปจะตั้งใจเรียน เพื่อทำตามฝันขอเป็นคุณหมอมารักษาคนต่อไป