ประเด็นน่าสนใจ
- โดยเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรกของจีนที่ใช้ อะดีโนไวรัสเป็นเวกเตอร์ ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโควิด-19
- ผลทดสอบทั่วโลกระบุประสิทธิภาพ 65.7% ป้องกันโควิด-19 และ 74.8% ในการทดสอบในปากีสถาน
สำนักบริหารผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แห่งชาติ (NMPA) ของจีนอนุมัติให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดลูกผสมที่ต้องฉีดเพียงครั้งเดียว เข้าสู่ตลาดแบบมีเงื่อนไข
วัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยทีมวิจัยที่นำโดย เฉินเวย ซึ่งเป็นนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติจีน (CAE) และนักวิจัยจากสถาบันการแพทย์ทหาร สังกัดสถาบันวิทยาการทหาร (Academy of Military Sciences) เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวแรกของจีนที่ใช้อะดีโนไวรัสเป็นเวกเตอร์ เพื่อส่งสไปก์ยีนของไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกาย
ท้ังนี้ วัคซีนดังกล่าวถูกผลิตให้ใช้สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และสามารถเก็บรักษาและขนส่งที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
สื่อต่างๆ รายงานบทวิเคราะห์ที่เขียนขึ้นระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ทั่วโลก ระบุว่าวัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการของโรคโควิด-19 ที่ร้อยละ 65.7 และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไม่ให้รุนแรงที่ร้อยละ 90.98
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการทดสอบของกลุ่มหนึ่งในปากีสถานระบุว่า วัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการของโรคดังกล่าวที่ร้อยละ 74.8 และสามารถป้องกันโรคไม่ให้รุนแรงได้เต็มประสิทธิภาพ