สภาฯ ลงมติ ให้สสร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด

ประเด็นน่าสนใจ

ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ… โดยได้มีการอภิปรายกันในประเด็นของที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. หลังจากที่กรรมาธิการฯ ได้เสนอให้ที่มาของ ส.ส.ร. ทั้ง 200 คน มาจากการเลือกตั้ง

ซึ่งต่างจากที่มีการเสนอก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ให้มาจากการเลือกตั้ง 150 คน, สมาชิกรัฐสภาคัดเลือก 20 คน ที่ประชุมอธิการบดีฯ คัดเลือก 20 คน และจากกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา 10 คน

โดยในการอภิปรายในประเด็นที่มา ซึ่งมีบางส่วนที่เห็นว่า ควรแบ่งให้กับกลุ่มต่าง ๆ ได้มีการคัดเลือก เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะที่ผ่านมาได้มีการเรียกร้องของกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา จึงควรเปิดให้แต่ละกลุ่มได้เลือกตัวแทนเข้ามา

ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งระบุว่า ควรดำเนินการตามที่คณะกรรมาธิการได้เสนอมา คือเลือกตั้งทั้ง 200 คน โดยได้มีการเสนอเพิ่มในส่วนของการแบ่งเขตการเลือก ส.ส.ร.

ก่อนที่ในช่วงเวลา 23.00 น. นายชวน หลีกภัย ได้เปิดมีการลงมติจากที่ประชุม ในประเด็นที่มาของ ส.ส.ร. คือ ให้ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทั้ง 200 คน ซึ่งผลการลงมติ เห็นด้วย 395 ไม่เห็นด้วย 13 และงดออกเสียง 165

ใช้เสียง 3 ใน 5 แก้ รธน.

ส่วนในประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการรับหลักการ ลงมติเห็นชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั้น ทางกรรมาธิการฯ ได้เสนอว่า จะต้องใช้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกรับสภา

โดยได้มีการอภิปรายระบุว่า การใช้เสียงจำนวน 3 ใน 5 ของสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น่าจะเหมาะสมกว่าการใช้เสียง 2 ใน 3 เนื่องจากจำเป็นต้องใช้จำนวนเสียงเกินไป และจะทำให้แก้ไข รธน. เป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย

ในขณะที่บางส่วนเสนอว่า การใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ 3 ใน 5 ของสภาฯ ก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ดีในการแก้ไข จึงอยากเสนอให้ใช้เสียงจำนวนครึ่งหนึ่งของรัฐสภา เพื่อลงมติแก้ไข รธน.

หลังจากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ก็ได้เปิดให้ลงมติในกรณีการใช้เสียง 2 ใน 3 ในการแก้ไขรธน. โดยผลการลงมติได้ข้อสรุปว่า ให้กลับไปใช้ร่างเดิมคือ การใช้เสียง 3 ใน 5 ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ