ประเด็นน่าสนใจ
- ประกันสังคมเผย มีการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตรที่ครอบคลุมสำหรับ ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น
- ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครั้งละ 13,000 บาท
- มอบเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง
- สิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรเหมายจ่าย เดือนละ 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 ส่งผลต่ออัตราส่วนของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น สำนักงานประกันสังคมได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนประชากรของประเทศให้มีบุตรเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการเกิดของประชากรที่กำลังลดลงรวมถึงสร้างกำลังแรงงานในอนาคต โดยจูงใจให้ผู้ประกันตนมีบุตรเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้มีการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตรที่ครอบคลุมสำหรับ ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น โดยจ่ายสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ผู้ประกันตนหญิง สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้ จะได้รับเงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย จำนวนครั้งละ 13,000 บาท และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง
ส่วนผู้ประกันตนชาย ที่มีภริยาจดทะเบียนสมรสหรือหญิงซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสจะได้รับเฉพาะเงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย จำนวน 13,000 บาท
นอกจากนี้ ได้ให้สิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรเหมายจ่าย เดือนละ 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ คราวละไม่เกิน 3 คน ทั้งนี้ ยังได้มีการสนับสนุนค่าตรวจ และรับฝากครรภ์เพิ่มอีก 1,000 บาท ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีการเข้ารับบริการฝากครรภ์ในสถานพยาบาลตามเกณฑ์คุณภาพที่กำหนดอีกด้วย
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การจ่ายสิทธิประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังแรงงานในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นแรงจูงใจส่วนหนึ่งของผู้ประกันตน ในการที่จะสร้างครอบครัว เพื่อเพิ่มประชากรวัยทำงาน รวมถึงเพิ่มกำลังแรงงานในอนาคต ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างประชากรของประเทศให้มีความสมดุล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง จังหวัดสาขา ที่สะดวก หรือโทร.1506 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th