ข่าวสดวันนี้ ตำรวจยัดยา พ่อค้าส้มตำ

พ่อค้าส้มตำเข้าให้ปากคำ ป.ป.ท. ปมถูกตำรวจยัดยาไถเงิน 5 หมื่น

ทนายรณณรงค์พาพ่อค้าส้มตำเข้าให้ปากคำ ป.ป.ท. กรณีถูกยัดยาไถเงิน 5 หมื่น เผย อยากให้จบคดีโดยเร็วที่สุด จากกรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าขายส้มตำวัย 49 ปี ซึ่งอ้างว่าถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1…

Home / NEWS / พ่อค้าส้มตำเข้าให้ปากคำ ป.ป.ท. ปมถูกตำรวจยัดยาไถเงิน 5 หมื่น

ทนายรณณรงค์พาพ่อค้าส้มตำเข้าให้ปากคำ ป.ป.ท. กรณีถูกยัดยาไถเงิน 5 หมื่น เผย อยากให้จบคดีโดยเร็วที่สุด

จากกรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าขายส้มตำวัย 49 ปี ซึ่งอ้างว่าถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ยัดยาเสพติดและรีดไถเงิน 50,000 บาทเป็นค่าประกันตัว โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ซึ่งนายศักดิ์ชัย ระบุว่า ระหว่างที่ขายของอยู่ที่ร้านส้มตำ บริเวณถนนพระราม 6

ลูกสาวได้มาบอกว่าบ้านพักที่ย่านถนนเพชรบุรีถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจึงรีบกลับบ้าน และพบตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย อ้างว่าเจอไอซ์จำนวนไม่มาก ก่อนที่ลูกสาวจะถูกควบคุมตัวไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1

เมื่อไปพาลูกสาวกลับมาปรากฏว่าตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุม พร้อมแจ้งข้อหาพาผู้ต้องหาหลบหนี อีกทั้งยังมีหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้นำเงิน 50,000 บาทมาเป็นค่าประกันตัวออกไป ด้วยความที่กลัวถูกคุมขังและไม่รู้กฎหมาย จึงให้ลูกสาวนำเงินมาให้เจ้าหน้าที่ ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้าน

ต่อมาได้เข้าแจ้งความในภายหลังเพราะรู้สึกว่าถูกเจ้าหน้าที่ยัดยาเสพติดและรีดไถ อีกทั้งยังจำหน้าและรู้จักชุดจับกุมหลายนาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ดาบวรพล” ที่เป็นคนรับเงิน 50,000 บาท และเคยมีเรื่องวิวาทกับลูกชายของญาติเมื่อหลายปีก่อนด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืน ซึ่งตอนแรกตนเองจะไม่เอาเรื่อง แต่กลับมีโทรศัพท์ พร้อมจดหมายส่งมาข่มขู่

ล่าสุดวันนี้ (22 ม.ค.62) ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ช ได้พานายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าส้มตำ และบุตรสาว เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ต่อนายเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผอ.กองปราบปรามทุจริตในภาครัฐ 5 กรณีถูกตำรวจในพื้นที่นครบาลบุกตรวจค้นบ้านพักก่อนยัดยาให้ลูกสาว กระทั่งตนเองถูกทางตำรวจชุดจับกุมบอกว่ามีหมายจับ 1 ข้อหา

โดยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ช เปิดเผยว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเป็นการเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการ พร้อมได้นำพยานปากอื่นเข้ามาสอบปากคำเพิ่ม โดยยังไม่สามารถเปิดเผยบุคคลที่มาเป็นพยานได้ เพราะเกรงว่าพยานจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากตั้งแต่ทางเจ้าหน้าตำรวจ สน.พญาไท ถอนกำลังไม่ได้มาเฝ้าคุ้มกันร้านส้มตำของผู้เสียหาย ก็มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานพร้อมมีการวิ่งเต้นคดี

ทางด้านนายศักดิ์ชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีชาย 2 คน เข้ามานั่งดื่มสุราภายในร้าน ซึ่งตนพอรู้จักแต่ไม่ได้สนิทสนม พยายามเข้ามาผู้คุยเรื่องคดีดังกล่าว แต่ตนปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็น ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวตนอยากจะจบเรื่องตั้งแต่ได้รับเงินคืน 50,000 บาทแล้ว

แต่หลังจากได้รับเงินคืนกลับถูกข่มขู่พร้อมบอกว่า ‘ขายของที่นี่ ไม่กลัวตายเหรอ’ พร้อมกับมีจดหมายมาข่มขู่อีก จึงทำให้ตนต้องเดินทางร้องหน่วยงานเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมอยากให้จบคดีโดยเร็วที่สุด