ครม. เห็นชอบตามการเสนอกำหนดยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุมปี 2562
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (22 ม.ค. 2562) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ ยา เวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์และบริการรักษาพยาบาล เป็นสินค้าและบริการควบคุมใหม่ ปี 2562 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้ มีการปรับปรุงรายการสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 2562
โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า การพิจารณาดังกล่าว ไม่ได้เป็นการ ควบคุมราคาค่าบริการของโรงพยาบาลเอกชน และ ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง กำหนดค่ารักษาพยาบาล
แต่จะมีคณะอนุกรรมการ ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นผู้กำหนดมาตรการในการดูแลให้เกิดความเหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในเรื่องของการรักษาพยาบาลและรับบริการทางการแพทย์
ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเผยถึงผลการประชุมดังกล่าวว่า แม้คณะรัฐมนตรีจะเห็นชอบ แต่ยังไม่ได้หมายความว่าจะประกาศใช้ทันทีในช่วงนี้ เพราะต้องให้กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดราคาค่าบริการให้เกิดความเหมาะสม
ทั้งนี้หากไม่มีการประกาศความคุมราคา อาจทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเมื่อสินค้าขาดตลาดได้ ขณะเดียวกันก็เพื่อให้ราคาค่ารักษา เวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐไม่ต่างกันมากเกินไปนั่นเอง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวช่วงหนึ่งหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงเรื่องดังกล่าวข้างต้นว่า
สิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้ คือการมอบหมายให้ไปกำหนดมาตรการที่เหมาะสมออกมา ต้องดูกฎหมายหลายฉบับ และไม่ใช่จะไปควบคุมราคาได้ทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม จึงขอทุกฝ่ายอย่าเพิ่งวิตกหรือตื่นเต้นในเรื่องนี้ และอย่าไปเคลื่อนไหวหรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง
เพราะเรามีพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งควบคุมดูแลสถานบริการทางการแพทย์ และกำหนดให้สถานพยาบาลทุกแห่งต้องมีป้ายแจ้งจุดที่ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบสิทธิของผู้ป่วยหรืออัตราค่าบริการทางการแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
ขณะที่ผู้ให้บริการต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยได้รับทราบเพื่อใช้ในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษา
ส่วนตัวจึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำตรงนี้ตามที่กฎหมายดังกล่าวกำหนดไว้ ถ้าใครพบว่ามีโรงพยาบาลแห่งใดที่ไม่ติดป้ายดังกล่าว สามารถร้องเรียนมาได้ หรือหากใครเข้ารับบริการทางการแพทย์แล้วรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถร้องเรียนได้ตามช่องทางรับเรื่องร้องเรียน