ประเด็นน่าสนใจ
- ผลการตรวจสอบพบว่า มีความปลอดภัย ใช้บริโภคได้
- พร้อมนำเครื่องกรองน้ำ มากรองน้ำบาดาลจากแหล่งน้ำบาดาลบ้านทุ่งคูณ และดื่มโชว์
วันนี้ (15 ก.พ.) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า จากการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้สำรวจและเจาะพบแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 3 แห่ง โดยบ่อน้ำบาดาล 2 แห่ง ที่เจาะพบน้ำบาดาลพุ่งขึ้นมาเป็นน้ำพุสูงราว 2-3 เมตร มีรสชาติคล้ายน้ำโซดา สามารถใช้ดื่มกินได้ สร้างความฮือฮาให้แก่ชาวบ้านและผู้พบเห็นนั้น
ผลการตรวจสอบและวิเคราะห์น้ำบาดาลจากน้ำพุโซดาทั้งในบ่อน้ำบาดาลที่บ้านทุ่งคูณ บ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 น้ำบาดาลมีไบคาร์บอเนตสูง 2,420 มิลลิกรัมต่อลิตร และ 1,870 มิลลิกรัมต่อลิตร ฟลูออไรด์สูงเล็กน้อย 1.4 มิลลิกรัมต่อลิตร และ 1.1 มิลลิกรัมต่อลิตร และมีเหล็กสูง 10 มิลลิกรัมต่อลิตร และ 28 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ
…
ซึ่งน้ำบาดาลจากแหล่งน้ำบาดาลห้วยกระเจา ไม่มีสารพิษ หรือสารปนเปื้อนร้ายแรง และจากการตรวจสอบทั้งสองบ่อพบว่า สามารถพัฒนานำน้ำขึ้นมาใช้ได้ไม่น้อยกว่า 2,400 ลบ.ม. ต่อวัน หรือ ไม่น้อยกว่า 5แสนลบ.ม. ต่อปี
ในการแถลงข่าว ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังได้นำน้ำบาดาลที่เก็บมาจากพื้นที่ ซึ่งมีสีเหลืองขุ่น นำกรองเอาสารแขวนลอย และสารละลายเหล็กออก พร้อมกับให้อธิบดีดื่มให้ดู เพื่อยืนยันว่า น้ำบาดาลจากทั้งสองบ่อนั้น มีความปลอดภัย รับประทานได้ และมีรสหวาน
สำหรับความซ่าที่เกิดขึ้นนั้น เป็นลักษณะของน้ำพุที่เกิดขึ้นจากออกมาจากแหล่งใหม่ ๆ ที่จะมีความซ่าอยู่ แล้วจะค่อยลดลงเมื่อเวลาผ่านไป สามารถนำมาผสมเครื่องดื่มดื่มได้ทันที
…
อย่างไรก็ตาม อธิบดีได้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เป้าหมายตามภารกิจของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล คือ การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งท้ายที่สุดพื้นที่ห้วยกระเจา #กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะทำโครงการศึกษา สำรวจ และพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน เพื่อพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาให้ประชาชนได้ใช้ในการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร โดยเร่งเจาะอีก 3 บ่อ เพื่อให้ครบทั้ง 6 บ่อ ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล