NEWS |
ประเด็นน่าสนใจ
- เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. 2562 เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมขังใน กทม. มีประชาชนตกค้างตามป้ายรถเมล์ และทำให้ กทม. ถูกวิจารณ์การทำงานเป็นวงกว้าง
- กทม.ออกมาชี้แจงว่า กทม.และรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาขยายทางน้ำและให้ชุมชนที่กีดขวางทางน้ำออกไป ซึ่งแล้วเสร็จไปแล้วในส่วนเขตสายไหมแล้ว แต่ยังไม่ได้ขุดคลองลอกทั้งหมด
- กทม.ได้ดำเนินการระบบขยายท่อระบายให้ใหญ่ขึ้นและระบบระบายน้ำออกได้เร็วขึ้นโดยนำร่องในพื้นที่จุดอ่อนต่าง ๆ แล้ว
หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. 2562 มีฝนตกหนักน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั่ว กทม.ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ในบางพื้นที่มีประชาชนตกค้างตามป้ายรถเมล์ต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่าการที่น้ำไม่สามารถระบายออกไปได้เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ของกทม.กีดขวางทางน้ำ
ทั้งนี้นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.และรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาขยายทางน้ำและให้ชุมชนที่กีดขวางทางน้ำออกไป ซึ่งแล้วเสร็จไปแล้วในส่วนเขตสายไหมแล้ว แต่ยังไม่ได้ขุดคลองลอกทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างดำเนินการขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำจากลำคลองไปได้ 7 กิโลเมตรแล้วจากระยะทางทั้งหมด 20 กว่ากิโลเมตร ซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนเดิมที่อยู่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม นี้ เนื่องจากการส่งคืนพื้นที่และการหาที่อยู่รวมถึงสร้างที่อยู่ใหม่ให้กับชาวชุมชนที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ส่งผลให้งานส่วนอื่นล่าช้าไปด้วย
พร้อมกันนี้นายสมพงษ์ ยืนยันว่าในส่วนพื้นที่ลำคลองยังมีพื้นที่เท่าเดิมทางน้ำไม่ได้เสียหายไป แต่เนื่องจากมีการรื้อถอนบ้านเรือนที่รุกล้ำ อาจส่งผลให้ภาพที่ออกมาเหมือนมีการลุกล้ำคลอง พร้อมยืนยันว่า กทม.ได้เตรียมรับมือเรื่องการระบายน้ำในทุกด้านทั้งการระบบท่อระบายน้ำ ลอกท่อ ระบบสูบน้ำ การจัดการคูคลอง ส่งผลให้น้ำที่มีปริมาณท่วมขังสามารถระบายได้เร็วขึ้น 1-2 ชั่วโมง แต่ระบบท่อระบายน้ำในถนนกทม.สามารถรับน้ำได้เพียงแค่ 60-80 มิลลิเมตร ซึ่งเกินกำลังที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสูงมากถึง 120-130 มิลลิเมตรได้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมถนนสักระยะก่อนที่จะถูกระบายออกไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการระบบขยายท่อระบายให้ใหญ่ขึ้นและระบบระบายน้ำออกได้เร็วขึ้นโดยนำร่องในพื้นที่จุดอ่อนเช่นถนนสุขุมวิท ซอยลาซาล-แบริ่ง ถนนศรีอยุธยา ถนนเยาวราช และจะดำเนินการให้ทั่วพื้นที่ต่อไป