ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล

พบ รพ.เอกชน 70 แห่ง ค่ายาแพง 16,000% พาราเซตามอล เม็ดละ 200 บ.

วันนี้ (11 มิ.ย. 62) มีรายงานว่า กรมการค้าภายใน ได้สั่งให้ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 353 แห่ง ยื่นราคายาที่ใช้ เข้ามาใหม่ทั้งหมด โดยแยกออกจากต้นทุนอื่น ทั้งค่าบริการทางแพทย์ ค่าเภสัชกรรม และเวชภัณฑ์…

Home / NEWS / พบ รพ.เอกชน 70 แห่ง ค่ายาแพง 16,000% พาราเซตามอล เม็ดละ 200 บ.

ประเด็นน่าสนใจ

  • กรมการค้าภายใน สั่งโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 353 แห่ง ยื่นราคายาใหม่ ภายใน 12 ก.ค. นี้
  • พบโรงพยาบาลเอกชน 70 แห่ง ค่ายาแพง เช่น ยาพาราเซตามอล จำหน่ายถึงเม็ดละ 200 บาท

วันนี้ (11 มิ.ย. 62) มีรายงานว่า กรมการค้าภายใน ได้สั่งให้ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 353 แห่ง ยื่นราคายาที่ใช้ เข้ามาใหม่ทั้งหมด โดยแยกออกจากต้นทุนอื่น ทั้งค่าบริการทางแพทย์ ค่าเภสัชกรรม และเวชภัณฑ์ ภายในวันที่ 12 กรกฎาคม นี้ เพื่อจัดระบบการทำคิวอาร์โค้ดราคาค่ายา ให้ผู้ใช้บริการตรวจสอบ ก่อนเลือกว่าจะซื้อยากับโรงพยาบาล หรือ นำใบสั่งยา ไปซื้อข้างนอก ซึ่งราคายาที่โรงพยาบาลเคยยื่นมา บวกรวมค่าบริการต่างๆ ส่งผลให้ราคายาต่อหน่วยบางรายการ แพงกว่าค่ามาตรฐาน หรือ มีส่วนต่างราคาขายสูงถึง 300-16,000 % 

จากการตรวจสอบพบว่า มีโรงพยาบาลเอกชนที่คิดค่ายาแพงกว่าค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 70 แห่ง พร้อมยกตัวอย่าง การตั้งราคาค่ายา เช่น ยารักษาโรงมะเร็ง จำหน่ายสูงถึงเม็ดละ 200,000 – 800,000 บาท ยารักษาโรคทั่วไปที่มีราคาแพงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย 1,500 รายการ บางรายการแพงสูงสุดเม็ดละ 16,000 บาท หรือแม้กระทั่งยาพาราเซตามอลจำหน่ายถึงเม็ดละ 200 บาท

ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน จะนัดหารือกับผู้บริหารโรงพยาบาลทั้ง 70 แห่ง เพื่อรับทราบความจำเป็น และวิธีคำนวณราคายาดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังสามารถฟ้องร้องมายังกรมการค้าภายใน และคณะกรรมการกลาง ภายใต้ประกาศฉบับนี้ ตรวจสอบและเอาผิดทางกฎหมาย หากพบว่า โรงพยาบาล ทำการรักษา เกินความจำเป็น ส่วนแนวคิดโครงการโรงพยาบาลธงฟ้า กรมการค้าภายในขอเวลาศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบก่อน หลังถูกต่อต้านจากโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งอ้างผลกระทบต่อคุณภาพทางการรักษา และผลดำเนินการโรงพยาบาล พร้อมขยายผลกำกับดูแลราคายาในคลินิกต่อไป ส่วนโรงพยาบาลรัฐที่ให้บริการนอกเวลาราชการ และคิดค่าบริการใกล้เคียงโรงพยาบาลเอกชนนั้น ไม่สามารถเข้าไปกำกับดูแลได้ เนื่องจาก อำนาจตามกฎหมายไม่ครอบคลุม และมีหน่วยงานอื่นกำกับดูแลอยู่แล้ว