คว่ำบาตร สหรัฐฯ

ไบเดน เซ็นคำสั่ง คว่ำบาตร ผู้นำกองทัพเมียนมา

มุ่งเป้าในผู้นำกองทัพที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร รวมถึงธุรกิจ และเครือญาติที่เกี่ยวข้องด้วย

Home / NEWS, PR NEWS / ไบเดน เซ็นคำสั่ง คว่ำบาตร ผู้นำกองทัพเมียนมา

ประเด็นน่าสนใจ

  • โจ ไบเดน ได้แถลงถึงกรณีที่ได้อนุมัติคำสั่งพิเศษ ในการคว่ำบาตรกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารในเมียนมา
  • มุ่งเป้าในผู้นำกองทัพที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร รวมถึงธุรกิจ และเครือญาติที่เกี่ยวข้องด้วย
  • พร้อมทั้งเรียกร้องให้คืนอำนาจให้กับประชาชน และปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมตัวไป

ในการแถลงข่าวเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโจ ไปเดน ได้กล่าวถึงกรณีการรัฐประหารในเมียนมา โดยระบุว่า หลังจากที่ได้มีการออกแถลงการณ์สนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาไปก่อนหน้านี้แล้ว

ในสัปดาห์นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมานั้นกระทบต่อสิทธิมนุษย์ชนของชาวเมียนมา สหรัฐฯ จึงขอเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาคืนประชาธิปไตยใหักับประชาชนชาวเมียนมา ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และผู้ที่ถูกจับกุมตัวไป รวมถึงให้เคารพการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. 2563 ที่ผ่านมาด้วย

โดยในวันนี้ สหรัฐฯ จะมีการดำเนินการเพิ่มขึ้น โดยมีคำสั่งคว่ำบาตรกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำรัฐประหารในเมียนมา ซึ่งจะทำให้สหรัฐสามารถคว่ำบาตรผู้นำกองทัพเมียนมา ที่เป็นผู้สั่งการในการทำรัฐประหารในครั้งนี้ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือสมาชิกของผู้สั่งการทำรัฐประหารในครั้งนี้ด้วย

ไบเดน กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะสามารถระบุรายชื่อผู้นำกองทัพเมียนมา ที่จะถูกคว่ำบาตร รวมถึงมีการสกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของนายพลในกองทัพเมียนมา จากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสหรัฐฯ กว่า 1 พันล้านดอลล่าร์

นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มความเข้มงวดในการกำหนดควบคุมการส่งออกสินค้าของเมียนมา จะมีการอายัดทรัพย์สินย์ในสหรัฐฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลทหารเมียนมา อย่างไรก็ตาม ก็ยังจะคงเดินหน้าให้การสนับสนุนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ สังคม และอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนชาวเมียนมาได้โดยตรง

ผลกระทบกับเมียนมา

สำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลทหารเมียนมานั้น ผลกระทบหลัก ๆ น่าจะเกิดขึ้นกับกลุ่มธุรกิจที่เป็นของกองทัพเมียนมาเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น Myanmar Economic Corporation และ Myanmar Economic Holdings Public Company Limited

ซึ่งทั้งสองบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น การทำเหมืองแร่, โรงงาน, ธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, ท่องเที่ยว, ขนส่ง รวมถึง โทรคมนาคมด้วย แม้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงกับเมียนมาจากการคว่ำบาตรในครั้งนี้อาจจะไม่ได้มากนัก แต่เชื่อว่า จะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ เดินหน้าออกมาตรการต่าง ๆ ในการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเมียนมานั้นมีสูงมากขึ้น

เนื่องจากทั้งสองบริษัทข้างต้น มีการติดต่อทางธุรกิจกับหลายประเทศทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และประเทศอื่น ๆ