กัมพูชา วัคซีนโควิด-19

กัมพูชาเริ่มฉีด ‘วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจีน’ ให้ประชาชนแล้ว

โดยฮุนมาเนต ลูกชายคนโตของสมเด็จฯ ฮุนเซน เข้ารับวัคซีนเป็นเข็มแรก

Home / NEWS / กัมพูชาเริ่มฉีด ‘วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจีน’ ให้ประชาชนแล้ว

ประเด็นน่าสนใจ

  • เมื่อวันพุธ (10 ก.พ.) กัมพูชาเปิดตัวโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในโรงพยาบาล 4 แห่ง
  • หลังได้รับบริจาควัคซีนของบริษัทซิโนฟาร์ม (Sinopharm) จากจีนเมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.พ.)

ฮุนมาเนต (Hun Manet) ลูกชายคนโตของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกที่โรงพยาบาลกัลเมตต์ (Calmette) ในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนเริ่มขึ้นเมื่อ 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ฮุนเซนโพสต์ลงบนหน้าเพจเฟซบุ๊กทางการของเขาว่า “ในที่สุดกัมพูชาก็ได้เริ่มดำเนินโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างเป็นทางการ อันเป็นผลมาจากความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จระหว่างกัมพูชาและจีน ซึ่งเป็นมิตรที่มีสัมพันธ์เหนียวแน่น”

ออร์ แวนดิน (Or Vandine) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกหญิง กล่าวว่าในขั้นต้น เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจะทำการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก่อน เช่น หน้าที่สาธารณสุขแนวหน้า เจ้าหน้าที่ของรัฐ กองกำลังติดอาวุธ และนักข่าว ที่โรงพยาบาล 4 แห่งในกรุงพนมเปญ

“วัคซีนนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง และฉันอยากสนับสนุนให้ทุกคนเข้ารับการฉีด เพราะวัคซีนตัวนี้จะช่วยปกป้องเรา ครอบครัว และชุมชนของเราจากโรคโควิด-19” เธอให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังจากได้รับวัคซีน

โฆษกหญิงกล่าวเพิ่มเติมว่าแต่ละคนจะต้องได้รับวัคซีน 2 โดส ซึ่งเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 จะมีระยะเวลาห่างกันราว 14-28 วัน

“ฉันขอแสดงความขอบคุณอย่างมากต่อจีนที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 แก่กัมพูชา วัคซีนนี้มีส่วนช่วยเหลืออย่างมากในการปกป้องชาวกัมพูชาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชนของเรา” เธอกล่าวเสริม

โฆษกหญิงกล่าวว่าหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกแล้วผู้รับวัคซีนจะต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที

อนึ่ง กัมพูชาประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสถิติล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาระบุว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมทั้งสิ้น 478 ราย และรักษาหายดีแล้ว 457 ราย โดยไม่มีผู้เสียชีวิต


ที่มา – ซินหัว