หลุยส์ สก๊อตต์ นักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวีดีโอลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว @louisscott
โดยเผยให้เห็นเหตุการณ์ระทึก รถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับแซงปาดหน้า ก่อนเบรกใส่จนรถเกือบชนท้าย และขับส่ายไปมา ไม่ยอมให้แซง ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายจากมือถือ พร้อมระบุข้อความว่า…
ซึ่งทางหลุยส์เองก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่มาที่ไปว่า เกิดอะไรขึ้น จึงได้มีทำให้รถคันดังกล่าวไม่พอใจ และในตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากคู่กรณีออกมาแต่อย่างใด
ขับรถปาดหน้า ปิดเส้นทาง มีความผิด ติดคุก
เมื่อปี 2561 มีเหตุการณ์ขับรถปาดหน้ากัน โดยจำเลยในคดีเป็นหนุ่มวัยกลางคน ขับรถยนต์เก๋งแคมรีสีดำ ได้ขับปาดหน้ารถยนต์ของหญิงวัย 64 ปี พร้อมลงนำอาวุธลงมาข่มขู่ และตวัดไปโดนรถของคู่กรณี เนื่องจากโมโหที่คู่กรณีไม่ยอมให้ทางเพื่อให้ตนเองเลี้ยวออกมาได้ ในคดีนั้น ศาลพิพากษา
- จำคุกจำเลย 1 เดือน ฐานทำให้ผู้อื่นกลัวโดยการขู่เข็ญ
- จำคุก 4 เดือน ฐานทำให้เสียทรัพย์
- ปรับ 1000 บาท ฐานใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ
- ปรับ 500 บาท ฐานขับรถไม่เข้าทางซ้าย
- ปรับ 500 บาท ฐานขับรถกีดขวางในลักษณะไม่ปลอดภัย
รวมโทษ จำคุก 5 เดือน ปรับ 2000 บาท โดยท้ายที่สุดศาลลดโทษเหลือ จำคุก 2 เดือน 15 วัน ปรับ 1000 บาท ซึ่งโทษจำคุกนั้นให้ดำเนินการโดยไม่รอลงอาญา
อีกกรณีหนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560 หลังมีคลิปแชร์บนโลกออนไลน์ ว่ามีผู้ขับขี่รถฉวัดเฉวียน ปาดไปมาและหยุดกลางถนน ทำให้ผู้อื่นไม่สามารถขับขี่ไปได้ โดยในคดีนั้นไม่มีผู้เสียหาย มีพนักงานอัยการจึงเป็นโจทก์ฟ้อง ท้ายที่สุดศาลจังหวัดพระขโนง ตัดสินให้จำเลยมีความผิด ฐานขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัย ให้จำคุก 15 วัน แต่จำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือ กักขัง 15 วัน ปรับ 5000 บาท พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน
อีกหนึ่งคดีดังคือ คลิปยาริสสีแดงขับหวาดเสียว จนเป็นคลิปดังเมื่อปี 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้ตัดสิน “ริบรถยนต์” พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน และปรับ 500 บาท
คู่กรณีเสียชีวิต ผิดฐาน “เจตนาฆ่า”
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2255/2522 โดยจากบันทึกคำพิพากษฉบับย่อ สรุปไว้ว่า
จำเลยขับรถปิดเส้นทางไม่ยอมให้ผู้ตายซึ่งขับรถตามหลังมาแซงขึ้นหน้า เมื่อรถโดยสารประจำทางแล่นสวนทางมา จำเลยก็แกล้งเบรคให้รถหยุดในทันที
การกระทำเช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายต้องหักรถหลบไปทางขวาและชนกับรถโดยสารนั้น ซึ่งจำเลยย่องเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าจะมีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บและตายเกิดขึ้นจากเหตุที่รถชนกันนั้น
ฉะนั้นเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยผลแห่งการกระทำของจำเลยดังกล่าว จงได้ชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2255/2522
โดยในคดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้จำคุก จำเลย รวม 21 ปี เดือน ในชั้นศาลฎีกา พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 98, 160 จำคุก 2 เดือน เมื่อรวมกับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 อีกกระทงหนึ่ง คงจำคุกจำเลย รวม 20 ปี 2 เดือน นอกจากที่แก้นี้แล้วคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์