ประเด็นน่าสนใจ
- อย. – ปคบ. แถลงผลการทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายครีมเถื่อนรายใหญ่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าของกลางกว่า 5 แสนบาท
- อย. เตือน ครีมเถื่อนส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่อันตราย ทำให้ผิวบางลง แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
- ตร. ระบุ มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากตรวจพบสารห้ามใช้จะมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2564) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) โดย พ.ต.อ. ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ รอง ผบก. ปคบ. และ พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายครีมเถื่อนรายใหญ่ 4 จังหวัด สรุปผลดังนี้
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกข่าวเตือนผู้บริโภคอย่าใช้ครีมเถื่อน ไม่มีเลขจดแจ้ง โฆษณาอ้างช่วยผิวขาวใส มีออร่า ที่มีการรีวิวทางติ๊กต็อก (Tik Tok) กันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) จึงได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจนพบสถานที่ลักลอบจำหน่ายครีมเถื่อนดังกล่าว และขยายผลไปยังแหล่งลักลอบผลิต จนสามารถทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายครีมเถื่อนรายใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางไว้ทั้งหมด เป็นครีมสำเร็จรูปพร้อมจำหน่าย 523 ถุง ครีมกระปุกฝาแดง 1,989 กระปุก วิตามินซี 30 หลอด ครีมรอบรรจุ 80 กิโลกรัม และอุปกรณ์การผลิต รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐานผลิต/ขายเครื่องสำอางไม่ได้จดแจ้งและไม่มีฉลาก มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากตรวจพบสารห้ามใช้จะมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วหากพบเป็นการกระทำความผิดฐานใดก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ. ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของ บก. ปคบ. และ อย. ในครั้งนี้ สามารถยึดครีมเถื่อนของกลางจำนวนมาก ไม่ให้หลุดรอดออกไปจำหน่าย ทำให้ประชาชนได้รับอันตราย และขอเตือนประชาชนอย่าซื้อเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้งมาใช้เด็ดขาด เพราะเราไม่ทราบตัวตนของผู้ผลิตและส่วนผสมที่ใช้ อาจมีสารอันตรายปลอมปนอยู่ ซึ่งตำรวจ บก. ปคบ. และเจ้าหน้าที่ อย. จะร่วมกันปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า ครีมเถื่อนที่ยึดได้ในครั้งนี้มักขายตามตลาดนัด ร้านค้าออนไลน์ ไม่มีเลขจดแจ้ง ไม่มีฉลากหรือแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศมักโฆษณาอ้างรักษาสิว รอยแผลเป็น ฝ้า กระ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ดำกรรมพันธุ์ก็ขาวขึ้น เห็นผลใน 7 วัน ที่ผ่านมา อย. เคยตรวจพบสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางประเภทนี้ เช่น สารปรอท ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ สเตียรอยด์ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหน้าดำ ผิวบางลง แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับสารปรอทในปริมาณมาก อาจเกิดพิษสะสม ส่งผลให้ไตอักเสบ ซึ่งเคยมีผู้แพ้สารปรอทในเครื่องสำอางจนเสียชีวิตมาแล้ว หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556