ประเด็นน่าสนใจ
- มีกระแสข่าวกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเพียงอย่าง
- เหตุผลที่ พลเอกประวิตร ลดบทบาททางการเมืองเนื่องจากปัญหาสุขภาพ แต่ยังคงประคับประคองรุ่นน้องในรัฐบาลตามเป้าหมาย
‘บิ๊กป้อม’ ส่งสัญญาณอำลากระทรวงกลาโหม แต่ยังประคองรัฐบาลโดยรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเพียงอย่างเดียว
อีกหนึ่งความสำคัญในรัฐบาลที่มีกระแสข่าวว่าชื่อรัฐมนตรีอาจมีการเปลี่ยนแปลงคือ “กระทรวงกลาโหม” หลัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แสดงท่าทีว่าอาจลงจากตำแหน่ง และรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว เพื่อประคับประคองรุ่นน้องในรัฐบาลควบคู่กับปัญหาสุขภาพที่ยังรุมเร้า
ซึ่งตลอด 5 ปีของรัฐบาล คสช. ปฎิเสธไม่ได้ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม ถือเป็นพี่ใหญ่คอยประคับประคองให้น้องเดินหน้าทำงานจนสำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึงผลักดันให้น้องรักอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาถึงฝั่งฝันนั่งนายกรัฐมนตรีต่ออีก 1 สมัย
แต่การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้กลับเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย เมื่อพลเอกประวิตร ได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะลดบทบาททางการเมืองลง โดยตัดสินใจไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อ และจะรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเพียงตำแหน่งเดียวด้วยเหตุผลหลักคือเรื่องปัญหาสุขภาพ พลเอกประวิตร เปรยกับสื่อบ่อยครั้งในระยะหลัง
สำหรับการส่งไม้ต่อในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีชื่อของบุคคลต่างๆ ปรากฏก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุดสื่อหลายสำนัก ต่างเห็นตรงกันว่า พลเอกประยุทธ์ จะนั่งในตำแหน่งนี้เอง เนื่องจากกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานที่สำคัญด้านความมั่นคงที่คุมเหล่าทัพและหน่วยทางทหาร โดยถือเป็นกำลังหลักของรัฐบาลในการทำโครงการต่างๆ ซึ่งในช่วง 5 ปี คสช. ทหารได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ทั้งการจัดระเบียบสังคมและการช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติที่นอกเหนือจากงานการปกป้องประเทศ
การที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาแบ่งเบาภาระงานแทนพลเอกประวิตร จึงเป็นเงื่อนไขที่ลงตัวมากที่สุด เพราะอาจยังไม่ไว้ใจใครเท่ากับพี่น้องที่เติบโตร่วมกันมายาวนาน
หากพลเอกประวิตรเข้ารับตำแหน่งรองนากยรัฐมนตรี ก็จะรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่าทีล่าสุดยังแบ่งรับแบ่งสู้แต่ก็พร้อมทำหน้าที่ต่อหากมีรายชื่อในการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี ด้วยภาระกิจของรัฐบาลใหม่ที่หนักอึ้ง โดยไร้เครื่องมืออย่าง มาตรา 44 และต้องเจอความเขี้ยวลากดินของเหล่าบรรดานักการเมืองทั้งภายในพรรคและพรรคฝ่ายค้าน
ซึ่งเหตุนี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่พลเอกประวิตร ยังทิ้งเหล่าบรรดาน้องๆ ให้เดินไปเพียงลำพังไม่ได้ จึงอาจต้องอยู่ช่วยประคองประคองรัฐบาลให้อยู่ได้นานที่สุดในสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำแบบนี้